เตรียมเปิดตัว Suzuki e-Address สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าไซส์เล็ก
กลายเป็นอีกกระแสค่อนข้างที่ร้อนแรงในช่วงเวลานี้ที่ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อมีการตรวจพบภาพสิทธิบัตรที่จดทะเบียนในชื่อของ Suzuki ที่ยื่นต่อสำนักงานทรัพย์สินทางปัญญาของกระทรวงกฎหมายและสิทธิมนุษยชนแห่งอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า ที่มีชื่อว่า Suzuki e-Address ที่พึ่งจะเปิดตัวในระดับสากลไปเมื่อต้นปีที่ผ่านมา
Suzuki e-Address ถือเป็นก้าวแรกของ Suzuki ที่จะเข้าสู่โลกของยานยนต์พลังงานไฟฟ้าในระดับสากล ซึ่งเป็นตลาดที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในเอเชีย ด้วยการเปิดตัวครั้งนี้ ทางผู้ผลิตไม่เพียงแต่พยายามติดตามกระแสเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการเปิดตัวนวัตกรรมที่เกี่ยวข้องกับผู้บริโภคทั่วโลกอีกด้วย โดยการเปิดตัวครั้งแรกเกิดขึ้นที่งาน Bharat Mobility Expo 2025 ที่จัดขึ้นในนิวเดลี ประเทศอินเดีย ในด้านการออกแบบ รถสกู๊ตเตอร์รุ่นนี้มีความคล้ายคลึงกับ Suzuki Address 125 ที่ผลิตและจำหน่ายในเอเชียใต้ โดยมีประเทศอินเดียเป็นฐานในการผลิตหลัก
แม้ว่ารถรุ่นนี้จะถูกจัดให้อยู่ในหมวดหมู่ของสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า แต่มีคุณสมบัติที่เทียบเท่ากับสกู๊ตเตอร์เครื่องยนต์สันดาปในระดับเริ่มต้น ที่มีเครื่องยนต์ขนาดไม่เกิน 125 ซีซี รูปทรงของ Suzuki e-Address เน้นดีไซน์เป็นทรงกล่อง ขนาดกะทัดรัด พร้อมตัวถังที่ออกแบบมาเพื่อความคล่องตัวในการใช้งานในเมือง การออกแบบไฟหน้า LED เป็นแบบทรงกล่องและสปอร์ตมาก ขณะที่ไฟท้ายมีดีไซน์ที่เข้ากันกับส่วนท้ายของตัวถัง จะเห็นได้ชัดว่าตัวรถนั้น ดึงเอาองค์ประกอบส่วนใหญ่มาจาก Address 125 แทบจะทั้งหมด
คุณสมบัติหลักของ e-Address จะมีการแบตเตอรี่ลิเธียมเหล็กฟอสเฟต (LFP) สามารถชาร์จได้โดยใช้เพียงไฟบ้านทั่วไป โดยเวลาในการชาร์จจาก 0% ถึง 100% ใช้เวลาประมาณ 6 ชั่วโมง 42 นาที อย่างไรก็ตาม การใช้เครื่องชาร์จกำลังไฟที่สูงขึ้น สามารถใช้เวลาในการชาร์จแบตเตอรี่ให้เหลือเพียง 2 ชั่วโมง 12 นาที และรองรับระยะทางในการวิ่งเฉลี่ยที่ 87 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งรอบ
e-Address ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าที่สร้างพลังงานได้ 4.1 กิโลวัตต์และแรงบิด 15 นิวตันเมตร มอบประสบการณ์การขับขี่ที่ตอบสนองได้ดีในหลากหลายสภาวะ ระบบขับเคลื่อนล้อใช้สายพานแบบปิด คล้ายกับระบบ CVT ของมอเตอร์ไซค์อัตโนมัติเครื่องยนต์สันดาปภายใน และมีระบบสร้างพลังงานใหม่ เพื่อให้สามารถดึงพลังงานบางส่วนจากการเบรก เพื่อสร้างพลังงานกลับเข้าไปในแบตเตอรี่เพื่อชาร์จไฟ แต่ก็เพิ่มระยะทางได้อีกเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ในด้านฟีเจอร์มาพร้อมระบบไฟ LED แบบเต็มรูปแบบ, ระบบกุญแจอัจฉริยะ, พอร์ตชาร์จไฟ USB, พื้นที่เก็บสัมภาระใต้เบาะขนาด 17 ลิตร, จอแสดงผล TFT บนแผงหน้าปัดที่สามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนผ่านแอปพลิเคชัน Suzuki Ride Connect-E ด้วยน้ำหนักรวมอยู่ที่ประมาณ 122 กิโลกรัม ซึ่งถือว่าหนักกว่ารุ่น Address 125 ที่มีน้ำหนักเพียง 106 กิโลกรัมเท่านั้น (ไม่รวมเชื้อเพลิง)
กลับมาที่เรื่องหลักคือการยื่นของสิทธิคุ้มครองผลิตภัณฑ์ในประเทศอินโดนีเซีย โดยทางสื่อสองล้ออย่าง tmcblog เองมองว่า ปัจจุบันตลาดสกู๊ตเตอร์พลังงานไฟฟ้าในประเทศ กำลังได้รับความนิยม และมีอัตราการเติบโตที่ก้าวกระโดด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กับการผุดขึ้นมาของผู้ผลิตในประเทศ ที่ปัจจุบันเน้นหนักในการผลิตและพัฒนายานพาหนะที่ให้พลังงานไฟฟ้าเป็นหลัก และมีราคาจำหน่ายต่อหน่วยถือว่าเข้าถึงได้ง่าย การที่แบรนด์ใหญ่อย่าง Suzuki จะเริ่มต้นในการทำตลาดก่อนเป็นเจ้าแรก ก็เป็นอะไรที่น่าสนใจ แต่ปัญหาใหญ่ๆ ของผลิตภัณฑ์ก็คือ เรื่องของราคาจำหน่าย ที่จะสามารถทำต้นทุนการผลิตให้ต่ำได้เท่ากับที่ทำในประเทศอินเดียหรือไม่ ถ้าหากทำได้ Suzuki e-Address คันนี้น่าจะเป็นม้ามืด ที่เข้ามาแย่งส่วนแบ่งทางตลาดได้ไม่มากก็น้อย
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก tmcblog.com

Keattisak Ngamkham – Writer, automotive journalist with experience The whole motorcycle industry and the motorsport industry Expert in doing reviews of all types of motorcycles.