เปิดตัว Suzuki GSX-1300R Hayabusa รุ่นใหม่สำหรับปี 2025
Suzuki Motorcycles Japan ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่สำหรับปี 2025 โดยเป็นการนำเสนอ GSX-1300R Hayabusa สปอร์ตไบค์รุ่นใหญ่ ที่มีประวัติศาสตร์อย่างยาวนานของแบรนด์ ที่แม้ว่าในปี 2025 นี้ จะไม่ได้มีการอัปเดทผลิตภัณฑ์ที่จริงจังมากนัก แต่ก็มีการเปลี่ยนแปลงสีสัน เพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับผู้บริโภค
Suzuki GSX-1300R Hayabusa เริ่มเปิดตัวครั้งแรกในปี 1999 และด้วยการวางตำแหน่งให้เป็นผลิตภัณฑ์ในรูปแบบสปอร์ตทัวร์ริ่ง ที่เน้นการใช้งานบนความเร็วสูง ทำให้ Hayabusa เคยเป็นเจ้าจองสถิติยานพาหนะสองล้อที่มีความเร็วสูงสุด 312 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ที่บันทึกไว้เมื่อปี 2000 และตัวรถก็ถูกพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง จนมาถึงรุ่นปัจจุบัน ที่ถือว่าเป็นเจนเนอเรชั่นที่ 3 ของซีรี่ส์ ซึ่งมีการอัปเดทล่าสุดจากปี 2023 เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานไอเสียอย่างเข้มงวดขึ้น
โดยตัวรถรุ่นใหม่ของปี 2025 จะอิงรากฐานจากการอัปเดทล่าสุดมาจากรุ่นปี 2023 โดยมีเครื่องยนต์ 4 ลูกสูบความจุ 1,340 ซีซี ที่รีดกำลังสูงสุดได้ 190 แรงม้า (HP) พร้อมกับแรงบิด 111 Ib-Ft ซึ่งแน่นอนว่าผ่านการรับรองมาตรฐานไอเสียทั้ง Euro5+ และมาตรฐานไอเสียใหม่ของประเทศญี่ปุ่น เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ในขณะที่โครงสร้างของตัวรถ จะใช้ชุดโครงสร้างแบบ Twin-Spar Alluminium Frame เชื่อมต่อกับระบบกันสะเทือนหน้าแบบหัวกลับจากแบรนด์ KYB เช่นเดียวกับด้านหลังที่จะใช้โช้คอัพหลังเดี่ยวแบบ Link-Type ทำงานร่วมกับสวิงอาร์ม ระบบเบรกด้านหน้าจะเป็นดิสก์คู่แบบลอยตัว ขนาด 320 มิลลิเมตร คาลิปเปอร์เบรก Brembo Stylena 4 พอร์ต ด้านหลังจะเป็นดิสก์เดี่ยวขนาด 260 มิลลิเมตรแบบลอยตัว คาลิปเปอร์เบรก Nissin 1 พอร์ต ขอบล้ออัลลอยด์ขนาด 17 นิ้ว สวมด้วยยางขนาด 120/70-17 และ 190/50-17
อุปกรณ์บนตัวรถจะมาพร้อมกับระบบไฟ LED รอบคัน หน้าจอแสดงผลแบบอนาล็อกคู่โดยมีหน้าจอ LCD ดิจิตอลอยู่ตรงกลาง ตัวรถจะมาพร้อมกับระบบอิเล็กทรอนิกส์มากมาย ไม่ว่าจะเป็นระบบ Traction Control ระบบ Wheeli Control ระบบ Engine Brake Control และอื่นๆ อีกมากมาย มิติตัวรถจะมีความยาว 2,180 มิลลิเมตร ความกว้าง 735 มิลลิเมตร ความสูงรวม 1,185 มิลลิเมตร ระยะฐานล้อ 1,480 มิลลิเมตร ความสูงเบาะนั่ง 800 มิลลิเมตร น้ำหนักตัวแบบไม่รวมของเหลวจะอยู่ที่ 220 กิโลกรัม
ส่วนการอัปเดทใหม่สำหรับปี 2025 จะอยู่ที่การเปลี่ยนแปลงสีสันใหม่บนแฟร์ริ่ง โดยใช้สี Metallic Mat Steel Green / Glass Sparkle Black พร้อมกับตัวเลือกสีเดิมจากรุ่นปี 2024 ที่มีให้เลือกอีก 2 สี ประกอบด้วย Glass Sparkle Black/Matte Titanium Silver Metallic และ Mystic Silver Metallic/Pearl Vigor Blue ในส่วนของราคาจำหน่ายนั้น จะวางจำหน่ายแบบรวมภาษีอยู่ที่ 2,233,000 เยน หรือประมาณ 522,960 บาท
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก www.visordown.com

Keattisak Ngamkham – Writer, automotive journalist with experience The whole motorcycle industry and the motorsport industry Expert in doing reviews of all types of motorcycles.