เปิดตัว Suzuki GSX-8R 2025 สปอร์ตฟูลแฟร์ริ่งรุ่นใหม่
Suzuki USA ได้ประกาศเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ Suzuki GSX-8R รถมอเตอร์ไซค์สปอร์ตฟูลแฟร์ริ่งรุ่นใหม่ ในอเมริกาเหนือ โดยเป็นการเปลี่ยนแปลงสีสันใหม่ ซึ่งเลือกใช้งานสีใหม่ที่สดใส และเพิ่มความน่าสนใจให้กับผลิตภัณฑ์เป็นอย่างมาก
Suzuki GSX-8R จะเป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ใหม่ ที่ใช้แพลตฟอร์มร่วมกับ GSX-8S และ V Strom 800DE ที่เปิดตัวเมื่อปี 2022 ที่ผ่านมา โดยที่ GSX-8R จะมาพร้อมกับรูปแบบของรถสปอร์ตฟูลแฟร์ริ่ง ที่เน้นรูปแบบการใช้งานที่ครอบคลุมทั้งการใช้งานในชีวิตประจำวัน และการใช้งานในสนามการแข่งขัน
ในขณะที่ขุมกำลังประจำตัว จะเป็นเครื่องยนต์แบบ 2 ลูกสูบขนาด 776 ซีซี 4 จังหวะ โดยมีการวางองศาเพลาข้อเหวี่ยงแบบ 270 องศา ซึ่งเป็นการจำลองการทำงานของเครื่องยนต์แบบ V-twin ซึ่งจะให้อัตราเร่งในช่วงต้นที่ดีกว่า และยังมีการติดตั้ง Cross Balancer สร้างสมดุลของเครื่องยนต์ในการทำงาน ให้มีเสถียรภาพที่เหมาะสมในทุกๆ ย่านความเร็ว
ตัวรถจะมีแฟริ่งแบบเต็มพร้อมบังลม แม้ว่าจะมีการจัดเรียงไฟหน้าแบบซ้อนสองชั้นของ 8S ก็ตาม การวางตำแหน่งของแฮนด์บังคับ จะวางให้ต่ำกว่ารุ่นเนกเกต แต่ไม่ถึงกับต่ำเหมือนกับสปอร์ตเรพลิก้า เพราะตัวแฮนด์ยังคงวางอยู่ด้านบน triple clamp ซึ่งดูคล้ายกับการวางตำแหน่งของชุดแฮนด์ของ Aprilia RS660 มากกว่า Yamaha R7 ที่เป็นคู่แข่งโดยตรง
เพื่อให้เป็นไปตามหลักสรีรศาสตร์ที่ได้รับการปรับปรุงและตัวถังใหม่คือการตั้งค่าระบบกันสะเทือนที่เน้นมากขึ้นซึ่งปรับแต่งมาเพื่อให้น้ำหนักด้านหน้าเพิ่มขึ้น โดยเลือกใช้งานโช้คอัพจากแบรนด์ Showa ซึ่งจะแตกต่างจาก GSX-8S ที่ใช้งานโช้คอัพของ KYB โดยโช้คอัพของ Showa ใหม่นั้น จะมีเทคโนโลยี SFF-BP ที่ให้เสถียรภาพในการซับแรงที่เหนือกว่า ส่วนด้านหลังจะเป็นโช้คอัพเดี่ยว ที่สามารถปรับระดับ Preload ได้
ในส่วนของระบบเบรกนั้น จะเป็นรูปแบบเดียวกับที่ติดตั้งบน GSX-8S โดยจะใช้จานดิสก์หน้าคู่ขนาด 310 มิลลิเมตร คาลิปเปอร์เบรกจาก Nissin ส่วนด้านหลังจะเป็นดิสก์เดี่ยวขนาด 240 มิลลิเมตร คาลิปเปอร์แบบ 1 พอร์ต ส่วนขอบล้อจะเป็นอัลลอยด์ขนาด 17 นิ้ว สวมด้วยยาง Dunlop Sportmax Roadsport 2 ขนาด 120/70ZR17 ที่ด้านหน้า และ 180/55ZR17 ที่ด้านหลัง
ในส่วนของระบบอิเล็กทรอนิกส์นั้น ก็จะยกมาจาก GSX-8S ด้วยโหมดขับเคลื่อนของ Suzuki (SDMS) พร้อมโหมดการตั้งค่า – A, B และ C – สำหรับการตอบสนองของคันเร่งที่แตกต่างกัน สามโหมดสำหรับระบบ traction control และ ABS ที่สามารถเปิดหรือปิดการทำงานได้ และยังมีอุปกรณ์เสริมอย่าง quickshifter เป็นตัวเสริมประสิทธิภาพในการขับขี่ขั้นสูง
สุดท้ายคือการเปลี่ยนแปลงครั้งใหม่ในปี 2025 ทางผู้ผลิตเองจะมีการเพิ่มสีสันใหม่ นั่นก็คือสีเหลือง Pearl Ignite Yellow ซึ่งจะมาแทนที่สีเงิน Matte Sword Silver Metallic และจะยังคงจำหน่ายสีดำ Metallic Matte Black No 2 และสีน้ำเงิน Metallic Triton Blue ที่เป็นเอกลักษณ์ของผลิตภัณฑ์จาก Suzuki และราคาจำหน่ายของตัวรถจะอยู่ที่ 9,669 ดอลล่าร์ หรือราวๆ 322,080 บาทโดยประมาณ
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก young-machine.com
Keattisak Ngamkham – Writer, automotive journalist with experience The whole motorcycle industry and the motorsport industry Expert in doing reviews of all types of motorcycles.