Banner Yamaha Grand Filano Hybrid Connected 2024 1150x250
Banner Yamaha Grand Filano Hybrid Connected 2024 400x300

เปิดตัว Suzuki SV650 2025 รุ่นอัปเดทใหม่

เปิดตัว Suzuki SV650 2025 รุ่นอัปเดทใหม่

ยังคงเป็นตัวเลือกเพียงหนึ่งเดียวในปัจจุบัน กับแนวทางของรถสปอร์ตเนกเกตที่มาพร้อมกับเครื่องยนต์แบบ V-Twin ที่มีความจุปริมาตรกระบอกสูบไม่เกิน 650 ซีซี สำหรับ Suzuki SV650 รุ่นปรับปรุงใหม่สำหรับปี 2025 และยังเป็นส่วนหนึ่งของการผลิตครบรอบ 25 ปีของผลิตภัณฑ์

ie19yb.jpeg

Suzuki SV650 ซึ่งเป็นหนึ่งในรถมอเตอร์ไซค์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว อีกทั้งยังเป็นหนึ่งในไม่กี่โมเดลที่มีการเปลี่ยนแปลงน้อยที่สุด นับตั้งแต่เปิดตัวครั้งแรกในปี 1999 สำหรับผู้ที่ชื่นชอบ Suzuki แล้ว SV650 นับว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่ครอบจักรวาลที่สุดรุ่นหนึ่ง ตอบสนองสไตล์การขับขี่และความสามารถที่หลากหลาย ตามแนวทางการใช้งานของแต่ล่ะบุคคล

ie16ZY.jpeg

ด้วยความที่ตัวรถนั้นออกแบบมาเป็นอย่างดี ทำให้ตัวรถไม่จำเป็นต้องมีการปรับปรุงอะไรมากนัก ดังนั้น Suzuki ปล่อยให้รถรุ่นนี้เป็นรุ่นดั้งเดิมที่สุดเท่าที่จะทำได้ แม้ว่าจะผ่านมานานแล้ว แต่ SV650 ยังคงเป็นรถยอดนิยมสำหรับทั้งนักบิดมือใหม่และผู้ที่มีประสบการณ์ในการขับขี่รถสองล้อมาอย่างโชกโชน

ie1Oz8.jpeg

หากเทียบกันในเรื่องของราคาแล้ว Suzuki SV650 จะมีราคาที่สูงกว่าเพียง Honda CB500F ที่มีเครื่องยนต์ที่เล็กกว่า แต่ถ้าเทียบกับ CB500R ที่ขนาดเครื่องยนต์ที่เท่ากันแต่รูปแบบของเครื่องยนต์นั้นแตกต่างกัน ก็จะมีราคาที่ถูกกว่าอยู่ดี ซึ่งเจ้า SV650 นั้นยังมีราคาจำหน่ายที่ย่อมเยากว่า Kawasaki Z650 และ Yamaha MT-09 อยู่ประมาณหนึ่ง การที่จะชูประเด็นในการลดต้นทุนในการผลิตนั้นน่าจะไม่ใช่ปัญหาใหญ่ แต่ถ้ามองความเป็นไปได้นั้น อาจจะหมายความถึงการพัฒนาของเครื่องยนต์ที่อาจจะเดินมาถึงทางตัน จึงมีความจำเป็นที่จะต้องเปลี่ยนใหม่เพื่อสร้างบรรทัดฐานใหม่ๆ ให้กับผลิตภัณฑ์ก็เป็นไปได้

ie1mYX.jpeg

Suzuki SV650 นั้นใช้พื้นฐานเครื่องยนต์ขนาด 645 ซีซี 2 ลูกสูบแบบ V-twin 90 องศาแบบ DOHC สี่จังหวะ ระบายความร้อนด้วยน้ำ ขนาดของ Intake Valve ใหญ่ถึง 31 มิลลิเมตร แบบสองหัว และ Exhaust Valve 2 หัวขนาด 25.5 มิลลิเมตร โดดเด่นด้วยหัวฉีดแบบ 10 รู ที่จะฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงเข้าสู่ห้องเผาไหม้ได้อย่างละเอียด ตอบสนองทุกอัตราเร่งด้วย Suzuki Dual Throttle Valve (SDTV) ที่ทำงานร่วมกับ Butterfly Valve ได้อย่างลงตัว อัตราส่วนกำลังอัด 11.2:1 สตาร์ทเครื่องยนต์ด้วยระบบอีเล็กทรอนิกส์ ขับเคลื่อนด้วยระบบเกียร์ 6 สปีด Constant Mash ระบบคลัทซ์แบบเปียกซ้อนกันหลายชั้น ส่งกำลังสุดท้ายด้วยโซ่ แฮนด์เดิ้ลบาร์แบบยกสูงที่ง่ายต่อการควบคุม พร้อมหน้าจอแสดงผล LCD Full-Digital เต็มรูปแบบ ระบบไฟด้านหน้าแบบ Multi-Reflector ให้ความสว่างที่ชัดเจน รวมไปถึงไฟท้ายแบบ Integrated – Twin LED ให้ประสิทธิภาพที่สว่างชัดเจนและอายุการใช้งานที่ยาวนาน

ie1caC.jpeg

โครงสร้างตัวถัง Compact Trellis Steel Frame ที่มีน้ำหนักเบาและแข็งแรงทนทานต่อแรงบิด ระบบกันสะเทือนหน้าแบบ Telescopic, Coil Springs, Oil Damped ระบบกันสะเทือนด้านหลัง Link Type, Coil Springs, Oil Damped ปรับระดับของสปริง Preload ได้ 7 ระดับ ระบบเบรกด้านหน้าดิสก์คู่ขนาด 290 มิลลิเมตร ปั้มเบรก 2 ลูกสูบ ระบบเบรกหลังดิสก์เดี่ยวขนาด 240 มิลลิเมตร ปั้มเบรก 1 ลูกสูบ โดยมีระบบเบรก ABS ทั้งหน้าและหลัง ขนาดของยางหน้า 120/70 ZR17 MC 58W และขนาดยางหลัง 160/60 ZR17 MC 69W มิติตัวรถมีความยาว 2140 มิลลิเมตร ความกว้าง 760 มิลลิเมตร ความสูงถึงเบาะนั่ง 785 มิลลิเมตร ถังน้ำมันจุได้ 14.5 ลิตร (รวมถังสำรอง) น้ำหนักตัวรถอยู่ที่ 197 กิโลกรัม

ie1gnZ.jpeg
ie1W3D.jpeg

Suzuki SV650 มีจุดเด่นก็คือเครื่องยนต์ที่ทางค่ายได้พัฒนาลูกสูบแบบใหม่ที่ใช้สารเคลือบ SCEM (Suzuki Composite Electrochemical Material ) ทำให้ได้ลูกสูบที่แข็งแรงและน้ำหนักเบาที่สุด รวมไปถึงโครงสร้างตัวถังที่เป็นแบบเฟรมถังน้ำหนักเบาเป็นพิเศษทำให้เจ้า SV650 คันนี้มีน้ำหนักตัวเพียง 197 กิโลกรัม มีระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ที่ดีเยี่ยมอย่าง Suzuki Low RPM Assist ที่ช่วยควบคุมจังหวะเครื่องยนต์ในย่านความเร็วต่ำ รวมไปถึงระบบสตาร์ทเครื่องยนต์อัจฉริยะ Suzuki Easy Start System ที่ทำให้การสตาร์ทเครื่องยนต์นั้นง่ายดาย และระบบเบรกที่มีประสิทธิภาพจาก Nissin ที่ทำงานรวมกับกล่องประมวลผล ECM แบบ 32 Bit ที่จะคำนวณทุกครั้งที่ล้อหมุนไปครบ 50 รอบ เพื่อคำนวนอัตราการเบรกตามน้ำหนักที่ลดลงไป

ie1peB.jpeg
ie1M8f.jpeg

ในส่วนของการอัปเดทสำหรับโมเดลปี 2025 จะมีการเปลี่ยนแปลงสีสันใหม่ โดยตลาดในสหราชอาณาจักร จะได้รับสามสีใหม่ที่ประกอบไปด้วยสี Pearl Vigor Blue / Metallic Matt Black No.2 (CGJ), Metallic Matt Black No.2 และ Pearl Matt Shadow Green / Metallic Matt Black No.2 โดยมีราคาจำหน่ายเท่ากันที่ 7,999 ปอนด์ หรือราวๆ 330,190 บาทโดยประมาณ

ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก www.visordown.com