Banner Yamaha Grand Filano Hybrid Connected 2024 1150x250
Banner Yamaha Grand Filano Hybrid Connected 2024 400x300

เปิดตัว Honda CB1000R 2023 อย่างเป็นทางการ

เปิดตัว Honda CB1000R 2023 อย่างเป็นทางการ

เป็นอีกหนึ่งโมเดลที่ได้รับความนิยมตั้งแต่เปิดตัว สำหรับ Honda CB1000R Neo Sport Cafe รุ่นใหญ่ ที่เปิดตัวครั้งแรกมาตั้งแต่ปี 2018 และจำหน่ายอย่างยาวนานจนถึงปัจจุบัน ซึ่งล่าสุด Honda Japan ก็ได้ประกาศรุ่นสำหรับการทำตลาดในปี 2023 โดยได้ทำการปรับปรุงสีสันใหม่ และใส่โมเดลพิเศษสำหรับการวางจำหน่ายในปีนี้

LWwVav.jpg
LWwHbk.jpg
Honda CB1000R 2023 จะมีด้วยกันทั้งสิ้น 2 รุ่น โดยจะเป็นรุ่นมาตรฐานและ Black Edition โดยทั้งสองโมเดลจะมีพื้นฐานที่เหมือนถนัน แตกต่างกันเพียงการตกแต่งภายนอก ที่รุ่น Black Edition จะเน้นการใช้สีโทนดำ โดยจะมีชิ้นส่วนที่เป็นสีเงินโครเมียมเพียงไม่กี่จุดเท่านั้น โดยตัวรถจะยังคงใช้ภาษาการออกแบบ Neo Sport Cafe ที่เป็นเอกลักษณ์ ผสมผสานความทันสมัยและย้อนยุคเข้าด้วยกัน จนเกิดเป็นโมเดลที่มีแนวทางเป็นของตัวเองและลงตัวเป็นอย่างมาก

LWwuKP.jpg

ในขณะที่เตื่องของกลไกและเทคนิคบนตัวรถนั้น ไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ ตัวรถยังคงใช้งานเครื่องยนต์ 4 ลูกสูบเรียง 998 ซีซี แบบ DOHC ระบายความร้อนด้วยของเหลว ที่เป็นเครื่องยนต์ชุดเดิมจากการเปิดตัว มาพร้อมกับโหมดการขับขี่ 4 โหมด ระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ทันสมัยอย่างระบบ Traction Control ระบบ Wheelie Control ระบบเบรก ABS อีกทั้งตัวรถเวอร์ชั่นญี่ปุ่นจะติดตั้ง Quickshifter มาให้จากโรงงาน ทำให้การปรับเพิ่มหรือลดเกียร์ง่ายขึ้นและรวดเร็วกว่า ตัวรถจะมาพร้อมกำลังสูงสุด 143 แรงม้า (HP) ที่ 10,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 77 IB-Ft ที่ 8,250 รอบต่อนาที ไม่มีเปลี่ยนแปลง

LWw83l.jpg

ในส่วนของอุปกรณ์บนตัวรถนั้นจะยังคงไม่เปลี่ยนแปลงจากเดิม ตัวรถจะมาพร้อมกับชุดกันสะเทือนหน้าแบบหัวกลับ BPF จากแบนด์ Showa ที่สามารถปรับระบบได้อย่างเต็มที่ เช่นเดียวกับ Monoshock เดี่ยวด้านหลังที่สามารถปรับระดับได้ ทำงานร่วมกับสวิงอาร์มแบบ Sigleside-Swingarm ที่เป็นจุดเด่นของตัวรถ หน้าจอแสดงผลแบบดิจิตอล Negative ที่สามารถอ่านค่าต่างๆ ได้อย่างชัดเจนแม้จะอยู่กลางแดดจัด

LWwa4E.jpg
LWwpQN.jpg

สำหรับการจำหน่ายในตลาดรถมอเตอร์ไซค์ประเทศญี่ปุ่นนั้น Honda CB1000R 2023 ในรุ่นมาตรฐานจะมีตัวเลือกสีเพียงสีเดียวคือสี Bordeaux Red Metallic จำหน่ายในราคา 1,670,900 เยน หรือประมาณ 420,817 บาท ส่วนรุ่น Black Edition จะจำหน่ายในราคา 1,716,000 เยน หรือประมาณ 433,000 บาท ที่น่าสนใจคือการลดจำนวนชุดสีในการจำหน่ายที่เหมือนเป็นการบอกใบ้ว่านี้อาจจะเป็นรุ่นสุดท้ายของซีรี่ส์ก่อนที่จะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในเร็วๆ นี้ก็เป็นไปได้

ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก www.rideapart.com