10 รถ Sportbike แห่งปี 2019
ต้องบอกกันก่อนเลยว่าการจัดอันดับครั้งนี้เป็นการจัดอันดับของ Visordown เว็บไซต์สำหรับรถมอเตอร์ไซค์สัญชาติอังกฤษ โดยทาง GreatBiker เห็นว่าเป็นอะไรที่น่าสนใจจึงได้เอามาแปลและรวบรวมให้เพื่อนๆ ได้อ่านกัน ไปติดตามกันได้เลย
10.Kawasaki Ninja 125
Kawasaki Ninja 125 ถึงแม้ว่าจะเป็นนำเอาเจ้า Ninja 250SL มาลดขนาดเครื่องยนต์ลง แต่ก็เรียกได้ว่าเจ้า Ninja 125 นั้นมีความสปอร์ตที่ใกล้เคียงกับ Ninja 250 เป็นอย่างมาก ซึ่งเจ้า Ninja 125 นั้นถูกสร้างมาเพื่อไบค์เกอร์ยุโรปที่มีใบอนุญาตขับขี่ชนิด A1 ที่จะมีข้อห้ามของแรงม้าเครื่องยนต์ที่ห้ามเกิน 20 แรงม้า (HP) ซึ่งเจ้า Ninja 125 ก็เป็นไปตามข้อกำหนดที่วางไว้ และทางผู้ผลิตเองก็ได้มอบประสบการณ์การขับขี่ที่สนุกสนาน ควบคุมง่ายให้กับผู้ครอบครองมัน บนพื้นฐานของบังคับการจารจรอย่างถูกกฎหมาย
9.Aprilia RS4 125
รุ่นเล็กที่สุดของค่าย Aprilia แต่มีจุดเด่นที่เหนือใคร ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของระบบกันสะเทือนหน้าแบบหัวกลับ โช้คอัพหลังเดี่ยว ปรับระดับได้ น้ำหนักตัวรถที่เบาเพียง 120 กิโลกรัม แบบรวมน้ำมันและของเหลวเต็มถัง ซึ่งมันน่าจะเรียกว่าใกล้เคียงกับ Sport Replica 125 ซีซี ได้มากที่สุดกว่าใครในท้องตลาดปัจจุบัน
8.Honda CBR500R
โฉมใหม่ที่สปอร์ตกว่าเดิม เพิ่มเติมคือระบบ Assist&Slipper Clutch ระบบไฟฉุกเฉิน ESS ที่จะติดขึ้นเองอัตโนมัติเมื่อเซนเซอร์ตรวจจับการลดความเร็วหรือเบรกที่มากกว่าปกติ อีกทั้งบุคลิกของเครื่องยนต์ที่มอบความสปอร์ตที่มากขึ้นกว่าโมเดลเดิม ให้เหมาะสมกับการเป็นหนึ่งในตระกูล CBR อย่างแท้จริง
7.Kawasaki Ninja 400
รถมอเตอร์ไซค์สปอร์ตแฟร์ริ่งคลาสเริ่มต้น ที่ถูกจับตามองตั้งแต่เปิดตัวเมื่อปลายปี 2017 ที่ผ่านมา โดยจุดสนใจของบรรดาไบค์เกอร์ก็คือ คาแรกเตอร์ของตัวรถที่มีใกล้เคียงกับความเป็น Replica สูง อีกทั้งราคายังไม่ถึงกับสูงจนเกินไป จึงครองใจบรรดาไบค์เกอร์ทั้งผู้เริ่มต้นและมือเก๋าได้เป็นอย่างดี
6.Honda CBR650R
ปรับโฉมใหม่จนลืมความเป็นสปอร์ตทัวร์ริ่งจาก CBR650F ไปโดยปริยาย ซึ่งการออกแบบที่เกิดมาจาก CBR1000RR Fire Blade บวกกับราคาค่าตัวที่ไม่สูงมากนัก นั้นก็ส่งผลให้มันกลายเป็นหนึ่งรถมอเตอร์ไซค์ที่มียอดจำหน่ายสูงเป็นอันดับต้นๆ จากตระกูล CBR ของค่ายปีกนก Honda
5.MV Agusta F3 800RC
ที่สุดของสปอร์ตสามสูบกับเจ้า MV Agusta F3 800RC ที่มีจุดเด่นในเรื่องของขุมกำลัง 3 ลูกสูบ 153 แรงม้า (HP) เมื่อเทียบกับน้ำหนักตัวเพียง 165 กิโลกรัมแล้ว เจ้า F3 800RC ถือว่าเป็นสปอร์ตแฟร์ริ่งขนาดไม่ถึง 1 ลิตรที่แรงจัดอยู่ในแถวหน้าของตลาด ถึงแม้ว่ารูปโฉมของโมเดลนี้จะไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมมากมายนัก แต่มันคงเสน่ห์แบบอิตาเลี่ยนแท้ๆไว้
4.Honda CBR1000RR Fire Blade
ถึงผลงานในรายการ WSBK2019 จะไม่ค่อยสู้ดีนัก แต่ตรงกันข้ามกับเรื่องของธุรกิจ เพราะเจ้า Honda CBR1000RR Fire Blade นั้น สร้างปรากฎการณ์ Sportbike ที่ใครๆ ก็ขี่ได้ ด้วยการเซ็ทอัพจากโรงงานที่มีความเป็น User Friecdly สูง รวมไปถึงระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ทันสมัยและสามารถช่วยเหลือนักขี่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ มันจึงกลายเป็นรถในคลาส 1,000 ซีซี ที่มีการซื้อขายกันในตลาดรถมอเตอร์ไซค์เป็นอันดับต้นๆไม่ว่าจะเป็นโมเดลของปีไหนก็ตาม
3.BMW S1000RR
โฉมใหม่ที่หลายๆ คนอาจจะไม่ค่อยถูกชะตากับมันไหร่นัก เพราะการออกแบบไฟหน้าแบบสมมาตรเท่ากันสองด้าน ทำให้มนต์เสน่ห์ของมันขาดหายไป แต่สิ่งที่ได้กลับมาก็คือเรื่องของน้ำหนักตัวที่เบามากกว่าเดิม โครงสร้างตัวรถมีขนาดที่เล็กลง รวมไปถึงขุมกำลังใหม่ ที่มีเทคโนโลยี ShiftCam วาล์วแปรผันเข้ามาเพิ่มประสิทธิภาพให้เจ้าฉลามตัวใหม่ พร้อมทะยานไปข้างหน้าได้รวดเร็วมากกว่าเดิม
2.Kawasaki Ninja ZX-10R SE
หนึ่งในนั้นไอเทมจากค่าย Kawasaki ที่มาพร้อมกับขุมกำลัง 4 ลูกสูบเรียง 999 ซีซี 213 แรงม้า (HP) พร้อมกับระบบช่วงล่างไฟฟ้าจาก Ohlins ติดตั้งระบบ Qickshifter ทั้งขึ้นและลง ผนวกกับแกน IMU เสริมประสิทธิภาพให้ระบบ Traction Control ทำให้ขับขี่ได้อย่างมั่นใจและสนุกไปกับมันได้มากกว่าเดิม
1.Ducati V4R
คงไม่ต้องบรรยายอะไรให้มากความ ด้วยผลงานจากการแข่งขัน WSBK2019 กับชัยชนะ แบบ 100% ของ Alvaro Bautista ที่ดูเหมือนว่าจะสามารถเขย่าบังลังก์แชมป์ของ Jonathan Rea จากค่ายสีเขียวให้สั่นสะท้าน ด้วยเทคโนโลยีจากสนามแข่งสู่รถ Production ทำให้เจ้า V4R นั้นอาจจะมีค่าตัวที่สูงกว่าใครพื้นในท้องตลาดแต่ก็น่าแปลกที่ถึงแม้ว่าจะแพงขนาดไหนก็มีคนอยากได้มันมาครอบครองไม่น้อยเลยทีเดียว
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก www.visordown.com
Keattisak Ngamkham – Writer, automotive journalist with experience The whole motorcycle industry and the motorsport industry Expert in doing reviews of all types of motorcycles.