วิเคราะห์ Triumph – Bajaj การร่วมมือของสองแบรนด์ใหญ่
หลังจากการแถลงข่าวจาก Triumph ยืนยันว่าทั้งสองบริษัท จะสร้างรถจักรยานยนต์ขนาดเล็กและขนาดกลางที่มีความจุครอบคลุมตั้งแต่ 200-750 ซีซี นอกจากนี้ยังยืนยันว่าทางค่ายจะเสนอตัวเลือกหลายตัวภายในกลุ่มที่แตกต่างกันภายในเครื่องยนต์พิกัดเดียวกัน ดังนั้นคำถามใหญ่คือพวกเขาจะสร้างอะไร
ถึงแม้ว่าจะมีความชัดเจนในการร่วมมือกันแล้ว แต่ทางผู้ผลิตเองก็ยังไม่มีการเปิดเผยรายชื่อของโมเดลที่ทั้งสองบริษัทกำลังพัฒนาอยู่ แค่มีความเป็นไปได้ที่ทั้งสองบริษัทจะพัฒนาโมเดลใหม่คนล่ะรูปแบบแต่อยู่บนพื้นฐานเดียวกัน ซึ่งหากเราพิจารณาลงลึกไปในองค์ความรู้ของ Bajaj มีการผลิตรถมอเตอร์ไซค์ขนาดเล็กแล้ว Bajaj มีประสบการณ์ในการสร้างรถมอเตอร์ไซค์ให้กับ KTM มาอย่างยาวนาน โดยพิกัดของเครื่องยนต์ที่ Bajaj ผลิตให้กับ KTM นั้น ก็เป็น Segment ที่ทาง Triumph เองต้องการจะใช้เป็นตัวหลักในการเปิดตลาดกลุ่มใหม่
ย้อนกลับไปในปี 2014 Triumph เคยพยายามที่จะพัฒนารถมอเตอร์ไซค์เนกเกต พิกัด 250 ซีซี แบบหนึ่งลูกสูบมาก่อน โดยใช้โครงสร้างและแนวทางมาจากรถในตระกูล Triple อย่าง Street และ Speed Triple มาเป็นรูปแบบของตัวรถ แต่ด้วยเหตุผลหลายประการทำให้โครงการนี้ต้องพับไป ซึ่ง Paul Stroud หัวหน้าผู้ดูแลโครงการนั้นได้ออกมากล่าวถึงโครงการนั้นโดยสรุปได้ว่า เป็นเพราะปัญหาในเชิงกลยุทธ์ทำให้โครงการนั้นต้องยุติลงก่อนเวลาอันควร
ย้อนกลับไปในเรื่องของความสัมพันธ์ของ Bajaj และ KTM มีความเป็นไปได้ที่ Bajaj เองอาจจะนำเอาเทคโนโลยีของเครื่องยนต์ KTM มาเป็นแกนหลักในการพัฒนาเครื่องยนต์รุ่นใหม่ให้กับ Triumph เพราะอย่าลืมว่า Bajaj เองก็ได้นำเอาเทคโนโลยีและองค์ความรู้บางส่วนการผลิตเครื่องยนต์ 125 -390 ในซีรี่ย์ Duke และ RC ของ KTM มาพัฒนาเครื่องยนต์ใหม่เป็นของตัวเอง ซึ่งตามหลักการและข้อตกลงนั้น Bajaj นับว่าเป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นใหญ่ของ KTM และตามข้อตกลงในการผลิตนั้น Bajaj สามารถนำเอาเทคโนโลยีของเครื่องยนต์ของ KTM มาใช้งานในโมเดลของตัวเองได้อย่างอิสระ แต่ก็อย่าลืมว่าเครื่องยนต์ 125-399 ซีซีที่ Bajaj ผลิตให้ KTM นั้นก็มีอายุอานามหลายปีเข้าไปแล้ว
เป้าหมายของ Triumph ในการร่วมกันพัฒนากับ Bajaj ในครั้งนี้ เป้าหลักใจความสำคัญของผู้ผลิตสัญชาติอังกฤษน่าจะอยู่ที่เครื่องยนต์ขนาด 200-400 ซีซี ถึงแม้ว่าจะประกาศว่ามีแผนการพัฒนาเครื่องยนต์ไล่ไปตั้งแต่ขนาด 200-750 ซีซี แต่ Triumph เองก็มีโมเดลในคลาสประมาณ 700 อยู่เป็นทุนเดิมแล้วด้วยเครื่องยนต์แบบ 3 ลูกสูบ 765 ซีซี ที่อยู่ใน Street Triple RS อยู่และความน่าจะเป็นมากที่สุดของการเปิดตลาดใหม่ในคลาสที่เล็กลงนั้นจะสามารถตอบสนองต่อผู้บริโภคที่มีขนาดของตลาดที่ใหญ่กว่าในคลาสเริ่มต้น ดังนั้นแล้วแนวทางแรกในรถมอเตอร์ไซค์ขนาดเล็กจาก Triumph นั้นน่าจะเป็นรถในแนวทางของ Naked หรือ Sport มากกว่าจะเป็นแนว Classic ตามความถนัดของตนเอง เพราะด้วยรูปแบบที่เข้าถึงได้ง่าย และน่าจะสร้างกลุ่มลูกค้าหน้าใหม่ได้ดีกว่านั่นเอง
ทั้งหมดนี้เป็นการคาดเดาจากบรรดาสื่อหลายๆ สำนักทั้งไทยและต่างประเทศ ซึ่งในที่สุดแล้วเราก็คงต้องมารอลุ้นกันว่าการร่วมมือกันในครั้งนี้จะได้ผลออกมาในแนวทางไหนและทิศทางของทั้งสองผู้ผลิตจะมีการเปลี่ยนแปลงไปมากน้อยเพียงใด ต้องติดตามกันต่อไปครับ
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก www.visordown.com
Keattisak Ngamkham – Writer, automotive journalist with experience The whole motorcycle industry and the motorsport industry Expert in doing reviews of all types of motorcycles.