อัพเดทใหม่ Yamaha MT-07 และ MT-125 ในตลาดยุโรป
ต้องเผชิญหน้ากับคู่แข่งใหม่ที่น่ากลัวอีกครั้ง หลังจาก Honda ได้เปิดตัวโมเดลใหม่ CB750 Hornet ที่มีรูปแบบที่ใกล้เคียงกับ Yamaha MT-07 ทั้งรูปแบบการใช้งานเครื่องยนต์และการวางราคาที่ใกล้เคียงกับ ทำให้ทางค่ายส้อมเสียงต้องมาปรับขบวนใหม่ และปล่อยอัพเดตล่าสุดออกมาสำหรับปี 2023 ด้วยการปรับเปลี่ยนอุปกรณ์ใหม่ที่ทันสมัยกว่าเดิม
สำหรับ Yamaha MT-07 ในปี 2023 นั้นจะเป็นการนำเอาอัพเดตล่าสุดในปี 2021 มาทำการตลาดต่อ ด้วยขุมกำลังเครื่องยนต์ 2 ลูกสูบเรียง 689 ซีซี ที่ใช้การจุดระเบิดแบบไม่สม่ำเสมอหรือ CP2 ที่เป็นจุดเด่น ให้กำลังสูงสุด 75 แรงม้า พร้อมกับแแรงบิด 49.5 Ib-Ft มาพร้อมกับชุดโครงสร้างแบบ Diamond Frame เชื่อมต่อกับระบบกันสะเทือนหน้าแบบหัวกลับขนาด 41 มิลลิเมตร และระบบกันสะเทือนหลังเดี่ยวที่สามารถปรับระดับ Prelosd และ Rebound ได้
การอัพเดตเพื่อการต่อสู้กับ CB750 Hornet นั้น จะไม่ได้มีการปรับปรุงเรื่องของกลไกเทคนิคหรือประสิทธิภาพ แต่จะเป็นการอัพเกรดอุปกรณ์ที่ทันสมัยกว่าเดิม ด้วยหน้าจอแสดงผลแบบ TFT ขนาด 5 นิ้ว แทนที่หน้าจอแบบ LCD ดั่งเดิมที่ใช้งานมาตั้งแต่ MT-07 รุ่นก่อนหน้า และยังมาพร้อมกับการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนผ่านแอปฯ MyRide ที่ไม่เพียงแต่ควบคุมสายโทรเข้าออก อีเมล ข้อความ แต่ยังสามารถเข้าถึงข้อมูลการใช้งานตัวรถ บอกได้ถึงการใช้รอบเครื่องยนต์ ระยะเวลาในการขับขี่ ระยะทางและแจ้งเตือนปัญหาเบื้องต้น พร้อมกับส่งข้อมูลความผิดพลาดไปยังศูนย์บริการ เพื่อให้สามารถซ่อมบำรุงได้อย่างรวดเร็ว
ไม่เพียงเท่านั้น หน้าจอสี TFT ยังสามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบการแสดงผลได้ 2 รูปแบบ ประกอบไปด้วยโหมด Street ที่จะแสดงผลการวัดรอบและความเร็วแบบดิจิตอล และโหมด Touring ที่จะปรับการแสดงผลแบบเข็มนาฬิกาวงกลมแยกส่วนระหว่างความเร็วตัวรถและการใช้งานรอบเครื่องยนต์ออกจากกัน โดยสามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำงานนี้ได้ทันทีเพียงสัมผัสปุ่มควบคุมใหม่ที่วางอยู่บนประกับแฮนด์ อีกทั้งตัวรถยังมีความสามารถในการติดตั้ง Quickshifter ได้ง่ายกว่าเดิม โดยทางผู้ผลิตจะได้วางสายจากโรงงานมาให้ล่วงหน้า ไม่ต้องทำการเดินสายเองให้ยุ่งยากอีกต่อไป เพียงเสียบก็พร้อมใช้งานทันที
Yamaha MT-125
Yamaha MT-07 รุ่นปี 2023 ไม่ใช่รุ่นเดียวที่จะได้รับอัพเกรดหน้าจอแสดงผลใหม่ แต่ยังร่วมไปถึงรุ่นเล็กสุดอย่าง MT-125 ท่จะได้รับหน้าจอแสดงผล TFT ขนาด 5 นิ้ว พร้อมกับการเชื่อมต่อผ่านแอปฯ MyRide เพียงแต่จะไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกบนตัวรถได้ แต่จะมีคุณลักษณะการแจ้งเตือนความผิดพลาดของระบบ ส่วนโหมดในการแสดงผลนั้นจะมีเพียงโหมดเดียวคือโหมด Street ส่วนอื่นๆ นั้นทางผู้ผลิตได้แจ้งว่า ได้มีการอัพเกรดระบบการยึดเกาะถนนของตัวรถใหม่ ทำให้การขับขี่มีเสถียรภาพมากขึ้นอีกด้วย
ส่วนเรื่องของราคานั้น ยังไม่มีการเปิดเผยจากผู้ผลิต โดยคาดว่าทั้ง 2 โมเดลจะเปิดตัวพร้อมราคาในงาน EICMA Show 2022 ที่จะจัดขึ้นในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายนที่จะถึงนี้ ส่วนการอัพเดตใหม่นี้จะส่งผลมายังผลิตภัณฑ์ที่ทำตลาดในประเทศไทยหรือไม่ คงต้องติดตามกันต่อไป
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก www.bennetts.co.uk
Keattisak Ngamkham – Writer, automotive journalist with experience The whole motorcycle industry and the motorsport industry Expert in doing reviews of all types of motorcycles.
