ที่มาของชื่อรุ่นมอเตอร์ไซค์ ภาคหนึ่ง
เพื่อนๆ หลายคนอาจจะสงสัยกันว่าชื่อโมเดลที่ถูกตั้งโดยผู้ผลิตต่างๆ นั้น มีที่มาที่ไปอย่างไร และมันมีความหมายที่แอบแฝง ซ่อนเงื่อนอะไรไว้ในคำคำนั้นหรือไม่ วันนี้ทีมงาน GreatBiker จะขอพาเพื่อนๆไปสืบที่มาที่ไปของชื่อโมเดลต่างของรถมอเตอร์ไซค์กันครับ
BMW GS Series
ชื่อของ BMW GS Series นั้นถูกยกให้เป็นที่สุดของโมเดลรถมอเตอร์ไซค์ในแนวทาง ADV ที่มีหลายๆ คนอยากได้มาครอบครองสักคัน โดยความหมายของรหัสห้อยท้าย GS นั้น เกิดขึ้นครั้งแรกในปี 1980 กับโมเดล BMW R8 G/S ซึ่งเจ้าตัวอักษร G/S นั้นเป็นการย่อคำโดยใช้อักษรตัวหน้าของคำว่า Gelände/Straße ซึ่งเป็นภาษาเยอรมันที่แปลว่า Off-Road / Road เพื่อบ่งบอกว่าโมเดลนี้เป็นรถมอเตอร์ไซค์ที่สามารถวิ่งได้ทั้งบนทางวิบากและปกติ นั่นเอง
Ducati 851, 888, 916, 999, 995, 996,1098
Ducati เป็นค่ายผู้ผลิตมอเตอร์ไซค์ที่ซื่อตรงต่อผู้บริโภคมากที่สุดค่ายหนึ่งบนโลกมอเตอร์ไซค์ เพราะในอดีตและในปัจจุบันนั้น ผู้ผลิตมากมายมักจะให้ตัวเลขห้อยท้ายตัวรถที่จะบ่งบอกถึงพิกัดเครื่องยนต์ ซึ่งก็มีหลายค่ายที่เครื่องยนต์นั้นจะมีค่าขนาดเครื่องยนต์ที่ไม่ตรงกับตัวเลขห้อยท้าย ซึ่งจะมากกว่าหรือน้อยกว่าก็แล้วแต่ โดยประเด็นหลักของการตั้งรหัสตัวเลขนั้นก็เพื่อให้ผู้บริโภคเข้าใจว่าตัวรถนั้นอยู่ใน Segment และยังเอื้อต่อการจดจำของผู้บริโภคให้จดจำได้ง่าย แต่ที่ Ducati นั้นจะมีความแตกต่าง โดยจะให้รหัสห้อยท้ายที่ตรงตามกับขนาดเครื่องยนต์เสียเป็นส่วนใหญ่ แต่ในช่วงระยะเวลา 5-7 ปี มานี้ Ducati เองก็เริ่มให้ความสนใจกับการสร้างความเข้าใจและง่ายต่อการจดจำต่อลูกค้า ด้วยการกำหนดตัวเลขที่ง่ายต่อการจดจำ เหมือนกับผู้ผลิตรายอื่นๆ มากขึ้น
Ducati Panigale
ชื่อของ Panigale นั้น เป็นชื่อที่มากกว่าโมเดลสายสปอร์ตของค่าย Ducati เพราะเป็นการตั้งชื่อโมเดลตามเขตการผลิตของโมเดลในครั้งแรก โดยชื่อ Panigale นั้นเป็นชื่อเขตอุตสาหกรรม ที่มีชื่อเต็มว่า Borgp Panigale ที่ตั้งอยู่ในเมือง Bologna ในประเทศอิตาลี ซึ่งก็มีเรื่องตลกเรื่องหนึ่งที่มักจะถูกแซวกันขำๆ เสมอ หากคนที่ซื้อโมเดล Panigale จากโรงงานก็ควรตรวจสอบให้ดีในตอนรับรถ ว่ามีตัว “e” ตกไปจากชื่อรุ่นหรือไม่ เพราะชื่อของ Panigal นั้นเป็นชื่อของแบรนด์สบู่ที่ผลิตในเขตอุตสาหกรรมเดียวกัน
Ducati Paso 750
โมเดลพิเศษสุดจากค่ายสีแดง Ducati โดยโมเดลนี้ถูกสร้างขึ้นและจัดโชว์ตัวครั้งแรกในปี 1985 ซึ่งเป็นโมเดลที่อุทิศให้กับ Renzo Pasolini ดาวรุ่งแห่งวงการมอเตอร์สปอร์ตอิตาลี ที่เสียชีวิตก่อนวัยอันควรในการแข่งขัน Italian Grand Prix ที่สนาม Monza ในปี 1973 หลังถูก Jarno Saarinen ดาวรุ่งฟินแลนด์ชนท้าย และเป็นต้นเหตุให้เกิดอุบัติเหตุลูกโว่ 12 คันในสนามการแข่งขัน และทั้งสองคนที่เป็นต้นขั้วก็เสียชีวิตจากอุบัติเหตุครั้งนั้นอีกด้วย
Triumph Bonneville Series
ชื่อโมเดลนี้ถูกตั้งตามสถานที่คล้ายกับโมเดล Panigale แต่เจ้า Bonneville นั้นจะเป็นสถานที่แห่งความทรงจำในการสร้างสถิติโลก โดยนาย Johnny Allen ที่ได้ใช้เครื่องยนต์สองลูกสูบของ Triumph ในการสร้างเจ้า Streamliner ยานพาหนะเพื่อการสร้างสถิติโลกด้านความเร็วสูงสุด โดยทำสำเร็จในปี 1955 ด้วยสถิติความเร็วสูงสุด 193.72 ไมล์ต่อชั่วโมง (ราวๆ 311.76 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) บนสถานที่อย่าง Bonneville Salt Flats ในรัฐ Utah ของสหรัฐอเมริกานั่นเอง
Triumph Thruxton
โมเดลนี้ปรากฎตัวครั้งแรกในปี 1969 ซึ่งเป็นโมเดลขายดีทันทีตั้งแต่เปิดตัว โดยที่มาของชื่อ Thruxton นั้นเป็นการนำเอาชื่อของสนามแข่งม้าที่มีชื่อเสียงที่สุดบนเกาะอังกฤษ ที่เปรียบเสมือนกับสนามเวมบลีย์ของวงการม้าแข่ง ซึ่งการที่จะมีม้าเข้าแข่งในสนามแห่งนี้ได้ก็ตั้งเป็นม้าแข่งในระดับท๊อปเท่านั้น ซึ่งก็เป็นความหมายที่แอบแฝงในชื่อโมเดล Thruxton ของ Triumph ที่ประมาณว่านี้คือม้าแข่งที่ดีที่สุดนั่นเอง
นี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของการบอกเล่าที่มาที่ไปของชื่อโมเดลต่างๆ ยังมีชื่อรหัสชื่อโมเดลต่างๆ ของรถมอเตอร์ไซค์อีกมากมายที่เรายังไม่ได้เอ่ยถึง เอาไว้โอกาสหน้าเราจะรวบรวมและนำเอาความหมายที่ซ่อนอยู่ของชื่อโมเดลต่างๆ มาบอกเล่าให้เพื่อนๆได้ทราบกันในโอกาสต่อไป
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก www.bikesrepublic.com
Keattisak Ngamkham – Writer, automotive journalist with experience The whole motorcycle industry and the motorsport industry Expert in doing reviews of all types of motorcycles.
