ทำไม 2021 Kawasaki Ninja ZX-10RR ตัวแข่ง WorldSBK ถึงไม่โดนตอนรอบเครื่องยนต์
หลังจากจบการแข่งขันในสนามแรกที่ Aragon ไปเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา สำหรับการแข่งขัน WorldSBK ประจำฤดูกาล 2021 ก็เปิดฉากอย่างเป็นทางการ พร้อมกับคำถามที่แฟนๆมอเตอร์สปอร์ตสายลึก ต่างตั้งคำถามกับ FIM ว่าทำไมการจัดการรอบเครื่องยนต์ของ Kawasaki ninja ZX-10RR ตัวแข่งของทีม KRT นุ้นถึงไม่ถูกตอนรอบเครื่องยนต์ แต่ยังคงรอบเครื่องยนต์สูงสุดหรือ Rev Limit ที่ 14,600 รอบเท่ากับรุ่นกาอนหน้า ทั้งๆ ที่ตัวรถมีการเปลี่ยนแปลงไปมากพอสมควรเมื่อเทียบกับเวอร์ชั่นที่ใช้ในการแข่งเมื่อปีที่ผ่านมา ในบทความนี้เรามีข้อสรุปมาให้ได้อ่านกันครับ
ก่อนอื่นต้องบอกก่อนเลยว่า Kawasaki Ninja ZX-10RR นั้นเป็นรถคันใหม่ที่มีการปรับแต่งพื้นฐานจากเวอร์ชั่นปีก่อนด้วยชุดโครงสร้างเดิมที่หุ้มด้วยแฟร์ริ่งใหม่ ซึ่งการออกแบบจะเน้นไปที่หลักอากาศพลศาสตร์มากขึ้น มีส่วนของช่องดักอากาศและอุปกรณ์ Winglet ที่ติดตั้งมาจากโรงงาน โดยเครื่องยนต์นั้นจะยังคงพื้นฐานเดิมจากเวอร์ชั่น 2021 แต่มีการเปลี่ยนไส้ในด้วยอุปกรณ์แบบใหม่ ที่น้ำหนักเบากว่า และทนทานกว่า ซึ่งไม่ขัดกับกติกาของ FIM ที่วางไว้ตั้งแต่แรก จึงทำให้เครื่องยนต์จะยังได้รับอนุญาตให้สามารถใช้รอบสูงสุด 14,600 รอบต่อนาที ได้เหมือนกับปีที่ผ่านมา
เช่นเดียว กับ BMW ที่ปีก่อนมีการนำเอาเจ้า S1000RR รุ่นใหม่ในตอนนั้น มาทำการแข่งขัน แต่ในปีนี้ BMW ได้เปลี่ยนตัวรถใหม่เป็น M1000RR ที่มีชิ้นส่วนของคาร์บอนมากขึ้น การปรับแต่งองศาของแฟร์ริ่งที่แตกต่างจาก S1000RR แต่ทั้งหมดนี้ยังคงอยู่บนพื้นฐานเครื่องยนต์ 999 ซีซี 4 ลูกสูบเรียง ShiftCam เหมือนกับปีที่ผ่านมา ทำให้ยังคงได้รับรอบเครื่องยนต์สูงสุดที่ 15,500 รอบต่อนาที เท่ากับเวอร์ชั่นที่ใช้แข่งในปี 2020 ที่ผ่านมา
มาตรฐานนี้ยังคงใช้งานได้กับ Ducati Panigale V4R ตัวแข่งสุดจี๊ดจากค่ายสีแดง ที่ยังคงเป็นรถแข่งที่ได้รับอนุญาตให้ใช้รอบเครื่องยนต์ที่สูงที่สุดในการแข่งขัน ด้วยจำนวน 16,100 รอบต่อนาที โดยมี Honda CBR1000RR-R ที่ตามมาด้วยรอบเครื่องยนต์ 15,600 รอบต่อนาที BMW M1000RR ที่ 15,500 รอบต่อนาที ตามมาด้วย Yamaha YZF-R1 14,950 รอบต่อนาที และปิดท้ายด้วยค่ายเขียว Kawasaki Ninja ZX-10RR ที่ได้รอบเครื่องยนต์ที่น้อยที่สุด ที่ 14,600 รอบต่อนาที
ย้อนกลับไปในช่วงเปิดตัวแข่งประจำฤดูกาล 2021 ก็มีคำถามทำนองนี้เกี่ยวกับรอบเครื่องยนต์ที่อาจจะถูกลดลงหรือคงไว้เท่าเดิม ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ต่างให้ทัศนะว่า ทีมมีความเป็นไปได้ที่จะได้รับอนุญาตให้ใช้รอบเครื่องยนต์ที่มากขึ้น ตามการคาดการณ์น่าจะอยู่ที่ 15,000-15,300 รอบต่อนาที ซึ่งจะช่วยรีดศักยภาพสูงสุดของตัวรถออกมาได้ แต่ในที่สุดเหตุการณ์ก็ไม่เป็นไปดั่งที่หวังไว้ Pere Riba เจ้าหน้าที่ของทีม KRTได้กล่าวถึงเรื่องนี้ไว้ว่า “ผมไม่อยากพูดถึงปัญหานี้มากเกินไป “ผมจะพูดเพียงสิ่งเดียว มันเป็นอะไรที่ยอมรับได้ยาก ที่เราถูกลดจำนวนรอบ ทั้งๆ ที่เราต้องการเพิ่มรอบเครื่องยนต์ให้มากขึ้น”
ก่อนจะบาดหมางไปกว่านี้ Scott Smart ผู้อำนวยการด้านเทคนิคของ FIM ได้ออกมากล่าวกับ Speed Week สื่อมอเตอร์สปอร์ตชื่อดังระบบโลกเกี่ยวกับเรื่องนี้ไว้ว่า “เหนือสิ่งอื่นใด ผมต้องบอกว่าการรับรองรถมอเตอร์ไซค์ไม่เหมือนกับกฎข้อบังคับทางเทคนิค เราตรวจสอบรถมอเตอร์ไซค์และดูว่าเอกสารที่นำเสนอนั้นตรงกับความเป็นจริงหรือไม่ ทันทีที่ผู้ผลิตทำการเปลี่ยนแปลงรถมอเตอร์ไซค์เอกสารเหล่านี้จะต้องได้รับการปรับเปลี่ยน ตัวอย่างเช่นหากคุณเปลี่ยนบางสิ่งบางอย่างเกี่ยวกับการไหลของน้ำมันในเครื่องยนต์ซึ่งเป็นเรื่องเล็กน้อยคุณไม่จำเป็นต้องมีการเปรียบเทียบใหม่เพียงแค่ต้องบอกไว้ในเอกสาร จำเป็นต้องมีการปรับให้เข้ากันใหม่หากมีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญเช่นแชสซีใหม่หรือหากมีการเปลี่ยนชิ้นส่วนเครื่องยนต์”
“Kawasaki มีแฟริ่งใหม่และก็มีสิ่งใหม่บางส่วนประกอบในเครื่องยนต์ ซึ่งโดยรวมแล้วเครื่องยนต์ดูจะเหมือนเดิมสิ่งแปลกใหม่ที่แท้จริงเพียงอย่างเดียวคือลูกสูบ ที่เหลือก็เหมือนกัน ยกตัวอย่างเช่น ในปี 2019 Kawasaki ได้ยกเครื่องยนต์ที่มาพร้อมกับฝาสูบใหม่ จึงเป็นแบบใหม่และเครื่องยนต์ก็ทำงานแตกต่างกัน นั้นคือสิ่งใหม่ แต่ตอนนี้ไม่มีการเปลี่ยนแปลงที่มากมายนัก อันที่จริงพวกเขาคิดผิดเกี่ยวกับสถานการณ์ ผมจะบอกว่ากฎนั้นพูดเพื่อตัวเองและ FIM จะใช้กฎเท่านั้น”
ดังนั้นข้อสรุปให้เพื่อนๆ ได้เข้าใจกันสักหน่อย เอาแบบง่ายๆ เลย คือ Kawasaki Ninja ZX-10RR รุ่นใหม่นั้น ไม่มีการทดสอบบน Dyno Test เพื่อหาความเปลี่ยนแปลง ซึ่งไม่ทราบได้ว่าทาง FIM กับ Kawasaki ได้ตกลงกันอย่างไรในขั้นตอนนี้ แต่การที่ Kawasaki ไม่ถูกปรับเพิ่มรอบเครื่องยนต์ให้สูงขึ้น ก็เพราะเอกสารที่ยื่นต่อทีมเทคนิคนั้น แสดงค่าว่าตัวรถไม่มีการเปลี่ยนแปลง “ภายในเครื่องยนต์” แต่มีการเปลี่ยนแปลงในส่วนของแฟร์ริ่งใหม่ จึงทำให้เรื่องราวลงเอยแบบนี้
อย่างไรก็ดี หลังจากสุดสัปดาห์ที่ Aragon ก็น่าจะแสดงให้เห็นว่ารอบเครื่องยนต์สูงสุดนั้น อาจจะมีผลโดยตรงต่อการแสดงศักยาภาพของตัวรถ แต่ Kawasaki Ninja ZX-10RR ทั้งสองคันของทีม KRT เองก็สามารถคว้าอันดับหนึ่งและสอง ได้มั้งในการแข่งขัน Race1 และการแข่งรอบพิเศษ Superpole Race ที่ Jonathan Rea และ Alex Lowes ต่างก็คว้าอันดับ 1 และ 2 ได้ และยังสามารถจบการแข่งขันบนโพเดียมอันดับ 2 และ 3 ตามลำดับในการแข่ง Race2 ได้อีก การจำหักรอบเครื่องยนต์นี้อาจจะไม่ส่งผลมากในช่วงเริ่มต้น แต่หากจะเป็นปัญหาในระยะยาว หรือเป็นไปได้ที่ Kawasaki เองอาจจะถูกตัดรอบลงอีกในอนาคต หากทาง FIM ต้องการตั้งทีมสอบสวนเรื่องนี้ขึ้นมาจริงๆ
ขอบคุณข้อมูลและรูปถภาพจาก www.worldsbk.com tmcblog.com
Keattisak Ngamkham – Writer, automotive journalist with experience The whole motorcycle industry and the motorsport industry Expert in doing reviews of all types of motorcycles.