Yamaha แถลงการณ์เตรียมเดินหน้าผลิตรถพลังงานไฟฟ้า 100% ภายในปี 2050
ประกาศอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 19 กรกฎาคมที่ผ่านมา Yamaha ได้ประกาศความมุ่งมั่นในการบรรลุความเป็นผลิตภัณฑ์ที่ปล่อยค่า Carbon เป็น 0 ภายในปี 2050 ซึ่งรวมถึงการปล่อยมลพิษทั้งที่ปล่อยออกมาอันเป็นผลโดยตรงจากกิจกรรมทางธุรกิจ และที่สำคัญกว่านั้นคือ การปล่อยมลพิษที่เกิดขึ้นต่อไป ในห่วงโซ่ผลิตภัณฑ์จากทางบริษัท
พิจารณาจากรายงานบูรณาการของบริษัทในปี 2021 จะพบว่าสิ่งที่ Yamaha กำลังพยายามจะบอกกับเราก็คือ “การปล่อยมลพิษที่เกิดจากผลิตภัณฑ์ที่บริษัทขายให้กับผู้บริโภค” ซึ่งจะประกอบไปด้วย รถมอเตอร์ไซค์ สกู๊ตเตอร์ เรือ และเครื่องยนต์อื่นๆ ที่ใช้ในอุตสาหกรรม ซึ่งมีส่วนสำคัญในบริษัท Yamaha Motor Company
จากข้อมูลปัจจุบัน ผลิตภัณฑ์ทั้งหมดของ Yamaha เองมีอัตราการปล่อยมลพิษที่เป็นจำนวนที่มาก เนื่องจากจำนวนการจำหน่ายออกไปสู่สาธารณะ ซึ่งเทียบไม่ได้กับการปล่อยมลพิษจากกระบวนการของสายการผลิต เพื่อให้บรรลุเป้าหมายนี้ แผนปัจจุบันของ Yamaha คือการพัฒนากลยุทธ์สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่ (BEV) ต่อไป ซึ่งรวมถึงรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า สกู๊ตเตอร์ และรวมไปถึงจักรยานไฟฟ้า
หากเราย้อนกลับไปในอดีตที่ผ่านมา Yamaha เป็นเจ้าแรกๆ ที่บุกเบิกการพัฒนารถจักรยานไฟฟ้าหรือ e-Bike โดนเริ่มการจำหน่ายอย่างเป็นทางการมาตั้งแต่ปี 1980 ซึ่งในปัจจุบันตลาดของ e-Bike เองก็กำลังเติบโตซึ่งผลพวงส่วนใหญ่ก็เกิดจากผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพจาก Yamaha โดยล่าสุดมีความเป็นไปได้ที่ Yamaha เองจะนำเอาเทคโนโลยี LMW (Leaning Multi-Wheel) ที่ใช้บนโมเดล Niken และ Tricity มาปรับใช้กับจักรยาน มอเตอร์ไซค์ และสกู๊ตเตอร์พลังงานไฟฟ้า
ในส่วนของผลิตภัณฑ์ยานพาหนะนั้น Yamaha มองว่าบริษัทจะเป็นกำลังสำคัญในการผลิต มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าได้ประมาณ 90 เปอร์เซ็นต์ภายในปี 2050 ส่วนหนึ่งของกลยุทธ์นี้เกี่ยวข้องกับการพัฒนามอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าแน่นอนว่าจะต้องเกี่ยวข้องกับเชื้อเพลิงที่มีคาร์บอนเป็นกลาง เพื่อทำหน้าที่เป็นตัวกั้นระหว่างยุคการเผาไหม้และยุคไฟฟ้า ส่วนใหญ่ต้องอาศัยการยุติการผลิตยานพาหนะเครื่องยนต์สันดาปในอีก 39 ปีข้างหน้า
ในขณะที่ Yamaha ไม่ได้ให้ตัวเลขที่ชัดเจนเกี่ยวกับแผนการพัฒนา combustion/electric motorbike แต่กราฟิกในรายงานยังให้แนวคิดบางอย่างเกี่ยวกับสิ่งที่บริษัทตั้งใจไว้ บริษัทเห็นว่าตัวเองค่อยๆ พัฒนารถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าไปจนถึงประมาณปี 2030 หลังจากนั้นรถจักรยานยนต์ของบริษัทจะกลายเป็นไฟฟ้าในสัดส่วนที่มากขึ้น ในช่วงนั้นยังเป็นช่วงที่การผลิตจักรยานยนต์สันดาปเริ่มลดลงอย่างรวดเร็ว
ประมาณปี 2035 จักรยานยนต์ขนาดเล็กที่ใช้เชื้อเพลิงที่เป็นกลางคาร์บอนก็อาจเข้ามามีบทบาทเช่นกัน เนื่องจากส่วนไฟฟ้ากลายเป็นส่วนสำคัญ Yamaha เองก็คาดการณ์ว่าจักรยานยนต์ในท้องตลาดจะใช้พลังงานไฟฟ้า คิดเป็นสัดส่วน 2.6 เปอร์เซนต์ภายในปี 2030 และเพิ่มเป็น 20 เปอร์เซนต์ภายในปี 2035 และขยายเป็น 90 เปอร์เซนต์ภายในปี 2050 และคาดว่าจะไม่หลงเหลือยานพาหนะเครื่องยนต์สันดาปภายในปี 2055 เป็นอย่างช้า
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก www.rideapart.com
Keattisak Ngamkham – Writer, automotive journalist with experience The whole motorcycle industry and the motorsport industry Expert in doing reviews of all types of motorcycles.