Yamaha Morpho Concept รถมอเตอร์ไซค์แนวคิดที่ถูกลืม
ในช่วงรอยต่อยุค 80 -90 นั้นเป็นช่วงเวลาที่อุตสาหกรรมรถมอเตอร์ไซค์มีการเปลี่ยนแปลงที่สูงมากๆ ครั้งหนึ่ง ด้วยการเข้ามาของเครื่องยนต์แบบ 4 จังหวะ ซึ่งกำลังจะเข้ามาแทนที่เครื่องยนต์ 2 จังหวะที่เป็นต้นเหตุสำคัญของมลพิษที่ก่อให้เกิดสภาวะโลกร้อน และในช่วงเวลานั้นเองอุตสาหกรรมรถมอเตอร์ไซค์ก็มีรถแนวคิดที่บรรดาผู้ผลิตรายใหญ่ต่างผลักดันให้ผู้บริโภคได้รับรู้ถึงการพัฒนาที่ไม่หยุดนิ่ง ซึ่งหลายๆโมเดลจากแนวคิดในครั้งนั้นก็ได้ไปต่อ แต่ก็มีบางโมเดลที่ยังถูกตั้งไว้ในฐานะของรถแนวคิดและไม่มีการเดินทางพัฒนาต่ออย่างเจ้า Yamaha Morpho Concept ที่เราจะมาเล่าให้ฟังกันในวันนี้
Morpho Concept เปิดตัวในงาน Tokyo Motor Show ปี 1989 เป็นการผสมผสานระหว่างสุนทรียภาพแห่งอนาคตและระบบกันสะเทือนของ James Parker’s Rotationally Advanced Design Development (RADD) นักออกแบบอุตสาหกรรมที่จบการศึกษามาจากภาควิชาวิศวกรรมและอุตสาหกรรมจากมหาวิทยาลัยStandford ได้ใฝ่ฝันที่จะให้ RADD เป็นทางเลือกหนึ่งของของระบบกันสะเทือน โดยมีการแยกฟังก์ชั่นบังคับเลี้ยวออกจากการทำงานของระบบกันสะเทือนทำให้ RADD ไม่จำเป็นต้องมี steering head และช่วยให้นักออกแบบลดจุดศูนย์ถ่วงของจักรยานลงได้
โดยงานออกแบบตัวรถได้รับการดีไซน์โดยทีม GK Dynamics มีการออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์ที่ยอดเยี่ยมพร้อมแฟริ่งที่รวมระบบไอเสียเข้ากับส่วนล่าง ทำให้ตัวรถนั้นมีจุดศูนย์ถ่วงที่ต่ำ เมื่อผนวกกับเครื่องยนต์ขนาด 1,003 ซีซี แบบ 4 ลูกสูบเรียง 110 แรงม้า เจ้า Morpho Concept สามารถทำความเร็วสูงสุดบนการทดสอบแบบวิ่งเป็นเส้นตรงได้มากถึง 306 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยที่ตัวรถนั้นมีน้ำหนักตัวแบบรวมของเหลวแล้วมากถึง 317 กิโลกรัมด้วยกัน
Yamaha Morpho II “Concept”
ไม่เพียงเท่านั้น Morpho Concept ยังมีคุณสมบัติที่แตกต่างจากรถมอเตอร์ไซค์ในยุคนั้น ด้วยความสามารถในการปรับตำแหน่งของแฮนด์ พักเท้า และความสูงเบาะนั่ง ด้วยการกดปุ่ม โดยมีระบบไฟฟ้าในการควบคุมตำแหน่งต่างๆ เหมือนกับเบาะนั่งในรถยนต์ที่สามารถปรับระดับได้ ตัวแฟร์ริ่งยังมีการเคลือบด้วยสีพิเศษ ที่แสดงผลสีที่แตกต่างกันตามสภาวะของแสงและความชื้น ซึ่งต่อมาในปี 1991 Morpho Concept ในงาน Tokyo Motor Show เจ้า Morpho Concept ก็ได้พัฒนาต่อในชื่อรหัส Morpho II แต่มีการปรับงานออกแบบใหม่ให้เป็นไปตามยุคสมัยของสไตล์สปอร์ตทัวร์ริ่ง โดยยังคงชุดระบบกันสะเทือนแบบ RADO ไว้ แต่ก็น่าเสียดาย ที่ทั้งสองโมเดลไม่ได้ไปต่อในสายการผลิตจริง ด้วยมูลค่าของตัวรถที่สูงจนเกินไป บวกกับสถานการณ์วิกฤตทางเศษรฐกิจในช่วงเวลานั้น ทำให้โปรเจกค์นี้ถูกพับไปและค่อยๆเลือนหายไปตามกาลเวลา
1993 Yamaha GTS1000
แต่ใช่ว่าโปรเจกค์ทั้งสองนี้จะหายลับไปเลย มันยังคงมีละอองของ Morpho ทั้งสองรุ่นที่ได้ไปต่อกับ Yamaha GTS1000 โมเดลที่ผลิตในปี 1993 ซึ่งในยุคนั้น เจ้า GTS1000 นับว่าเป็นโมเดลที่มีการติดตั้งอุปกรณ์ที่ทันสมัยที่สุดเท่าที่อุตสาหกรรมรถมอเตอร์ไซค์เคยผลิตมา ไม่ว่าจะเป็นโครงสร้างแบบ Omega Chassis สวิงอาร์มหลังแบบแขนเดี่ยว ระบบหัวฉีดเชื้อเพลิงอิเล็กทรอนิกส์ ระบบ catalytic converter ปั้มเบรกหน้าแบบ 6 พอร์ต (2ฝั่งเท่ากับ 12 พอร์ต) และเป็นโมเดลแรกๆ ที่เป็นรูปแบบ Mass Production ที่ติดตั้งระบบ ABS ในช่วงเวลานั้น
Yamaha GTS1000 นั้นใช้เครื่องยนต์พื้นฐานที่แตกต่างจาก Morpho โดยเป็นการนำเอาเครื่องยนต์มาจาก Yamaha FJ1200 มาทำการลดสัดส่วนให้เหลือเพียง 99.8 ซีซี โดยยังคงรูปแบบของเครื่องยนต์ 4 ลูกสูบเรียง 4 จังหวะ ให้กำลังสูงสุด 102 แรงม้า (HP) ที่ 9,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 106 นิวตันเมตรที่ 6,500 รอบต่อนาที และนับว่าเป็นสปอร์ตฟูลแฟร์ริ่งในแนวทางสปอร์ตทัวร์เรอร์ที่พละกำลังมากที่สุดรุ่นหนึ่งเลยก็ว่าได้ และมันยังใช้ระบบกันสะเทือนแบบ RADO ที่ยกชุดมาจาก Morpho ทั้งสองรุ่นอีกด้วย
แต่ในท้ายที่สุด Yamaha GTS1000 ก็ถูกผลิตในช่วงปี 1993-1999 และน่าสะเทือนใจมากกว่าเมื่อเรามาดูถึงยอดการผลิตของมัน ตลอดระยะเวลา 6 ปีที่ผ่านมานั้น ยอดการผลิตและจำหน่ายออกไปในระดับสากล มีไม่ถึง 5,000 คัน อาจจะเป็นด้วยความแปลก หรือมูลค่าของตัวรถที่สูงจนน่าใจหายในเวลานั้น แต่ในปัจจุบันมันได้กลายเป็นของหายยาก ที่มีบรรดานักสะสมรถมอเตอร์ไซค์จากทั่วโลกตามหาและพร้อมจ่ายให้มากกว่าราคาขายในตอนนั้นถึงสามเท่า เพื่อให้ได้มาสะสมอยู่ในโรงรถ
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก www.rideapart.com drivetribe.com
Keattisak Ngamkham – Writer, automotive journalist with experience The whole motorcycle industry and the motorsport industry Expert in doing reviews of all types of motorcycles.