ฟรีไรเดอร์ (Freerider) มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าที่ไม่ธรรมดา
ใกล้ช่วงเวลาพิเศษๆ แบบนี้เข้าไปทุกที จะให้เราหาเรื่องมอเตอร์ไซค์ธรรมดาๆ มาเขียน ฝากเพื่อนๆไบค์เกอร์ที่เป็นแฟนคลับเราอย่างเหนียวแน่นได้อย่างไร เพราะด้วยความที่มันไม่ธรรมดานี่แหละคร๊าบ เราจึงอยากจะหยิบเอาข่าวสกุ๊ปนี้มาเล่าให้เพื่อนๆ ได้รู้สักหน่อย
ว่าไปว่ามา ไม่รู้ว่าปีหน้าการสร้างกระแสมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าที่สืบเนื่องกระแสมาจากปีนี้ จะทำให้มีการเปลี่ยนแปลงหน้าประวัติศาสตร์มอเตอร์ไซค์ทั้งของโลกและบ้านเราไปมากน้อยเพียงใด แต่ที่เห็นได้อย่างชัดเจน ก็คงจะเป็นในเรื่องของราคาน้ำมันที่ดูแล้ว จะมีแนวโน้มที่จะลดลงเรื่อยๆ นับว่าเป็นเรื่องน่ายินดี คิดไปคิดมา ราคาน้ำมันเดียวนี้ถูกกว่าราคาข้าวอาหารจานเดียวซะแล้วหรอนี่ …..
กลับมาที่เรื่องของเรากันต่อ สำหรับเจ้าสกุ๊ปมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าที่ว่านี้ก็คือ เจ้า ฟรีไรเดอร์ (Freerider) ดูจากรูปลักษณ์และดีไซน์ภายนอกแล้ว ไม่น่าจะเป็นมอเตอร์ไซค์ไปได้ เหราะทั้งดีไซน์ที่เพียวบางแบบนี้บางครั้งแอดมินยังแอบคิดว่าน่าจะเป็นจักรยานไฟฟ้าคงจะดีกว่าแล้วไหม แบบนี้ แต่เรียกว่าเป็นการสรรค์สร้างสิ่งใหม่ๆ กับประสบการณ์และรูปแบบแนวความคิดในแบบสมัยใหม่ ซึ่งสุดท้ายแล้วเจ้าฟรีไรเดอร์ มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าจาก Kuberg ก็มีรูปร่างที่สวยจับใจอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว
แต่สำหรับสื่อบางสำนักก็บอกว่าดีไซน์ของมันมีลักษณะคล้ายรถวิบาก ซึ่งตัวรถเองใช้พลังงานสะอาดจากไฟฟ้าเป็นตัวขับเคลื่อนและใช้แบตเตอรี่ลิเธียมโพลิเมอร์ ขนาดความจุที่ 22 Ah เป็นส่วนหลักๆ ในการเก็บพลังงาน ซึ่งในการชาร์ทไฟแต่ละครั้งจะวิ่งถ้าราวๆ 1 ชั่วโมงต่อการชาร์ทไฟ 2 ชั่วโมง และเจ้าคันนี้สามารถทำความเร็วสูงสุดได้ที่ 55 กิโลเมตร/ชั่วโมง
ฟรีไรเดอร์ มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าคันนี้ยังสามารถใช้งานร่วมกับ Apps ทั้งในสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตได้แบบสบายๆ ทั้งระบบ iOS และ Android เพื่อใช้สำหรับดูสถานะการใช้งานของตัวแบตเตอรี่ที่หลงเหลืออยู่เท่าไรและอย่างไร รวมไปถึงค่าเฉลี่ยการใช้งานต่างๆ โดยรวมต่างที่จำเป็นอีกด้วย
และสำหรับจุดเด่นอีกอย่างหนึ่งของเจ้า ฟรีไรเดอร์ มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าจาก Kuberg คันนี้ก็เห็นจะเป็นในเรื่องของระบบกันสะเทือนและส่วนของตัววงล้อที่ทำออกมาได้ดีและลงตัวมากๆ เพราะเราสามารถนำเจ้าคันนี้เข้าไปลุยในเส้นทางที่ผลาดโผนได้แบบไม่ต้องเกรงกลัวในเรื่องของโครงสร้างที่ออกแบบมาเป็ฯอย่างดี แรงรับแรงกระแทกได้อย่างสบายๆ เช่นเดียวกับตัวระบบเบรกที่ก็ไม่ยอมน้อยหน้าในเรื่องของความมั่นใจเช่นกัน
สำหรับราคาค่าตัวของเจ้ามอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าคันนี้ หากคิดเป็นค่าเงินไทยของเราแล้วก็แพงเอาเรื่องอยู่เหมือนกัน ตกอยู่ที่ราวๆ 140,000 บาทเลยทีเดียว (3,999$) ใครที่สนใจหรือมีเงินในกระเป๋าเหลือพอลองสอยมาขับขี่เล่นๆ ได้นะจ๊ะ ที่เว็บไซต์ของ kuberg สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมได้เลย….
กระแสความร้อนแรงมอเตอร์ไซค์ส่งท้ายปีได้แล้วที่นี่
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก : kubergmotorcycles