Banner Yamaha Grand Filano Hybrid Connected 2024 1150x250
Banner Yamaha Grand Filano Hybrid Connected 2024 400x300

รีวิว New Honda CB650R ทดสอบขับขี่จริง โดยทีมงาน GreatBiker

สำหรับรถในตระกูล 650 จากทาง Honda นั้นได้ถือกำเนิดมาลืมตาดูโลกเป็นครั้งแรกในปี 2013 ซึ่งก็นับว่าได้สร้างความสั่นสะเทือนในวงการบิ๊กไบค์ในวงกว้าง เพราะว่ามันมาพร้อมกับขุมกำลังเครื่องยนต์แบบ 4 สูบเรียงครั้งแรกของทางค่ายปีกนกในคลาสนี้ และมันยังใช้ประเทศไทยเราเป็นฐานในการผลิตหลักด้วย นับจากวันนั้นจนถึงวันนี้ ทาง Honda เองนั้นก็ได้ทำการเขย่าวงการด้วยแรงสั่นสะเทือนที่มากกว่าเดิม กับการเปิดตัว New 650 Series ใหม่ ด้วยฟีเจอร์ที่พีคยิ่งกว่าเดิม และเป็นคันที่เรากำลังรีวิวกันในครั้งนี้กับ “New Honda CB650R” ครับ

มารู้จักกันกับตัวรถ New Honda CB650R ก่อน

TiW6Rk.jpg

New Honda CB650R นั้นหากจะนับกันแล้ว ก็ถือว่ามันเป็นหนึ่งวงศาคณาญาติของตระกูล Neo Sports Cafe’ ครับ ที่มันมีรุ่นก่อนหน้านี้อย่าง CB150R, CB300R และ CB1000R ซึ่งนับว่าเจ้า New Honda CB650R น้องใหม่นี้ก็เป็นการเติมเต็มช่องว่างได้อย่างพอดิบพอดี กับรถในคลาสกลางจากทางปีกนก ดังนั้นแล้วในเรื่องของการออกแบบนั้น แน่นอนว่ามันก็จะต้องดึงเอาเอกลักษณ์ของรถในตระกูลนี้มาใช้อย่างเต็มตัว ด้วยการดีไซน์ไฟหน้าแบบทรงกลม LED ตัวรถเป็นแบบสปอร์ตเนกเกต มาพร้อมกับฟีเจอร์ที่ถือว่าถ้าไม่ใส่มาให้ อาจจะไม่ถูกนับญาติจากตระกูล Neo Sports Cafe’ ก็เป็นได้อย่างเจ้า Upside Down ระบบกันสะเทือนหน้าแบบหัวกลับขนาด 41mm ของ Showa ที่บอกได้เลยครับว่ามันสร้างความแตกต่างไปจากรถคลาส 650 คันอื่นๆ ที่ไม่ใส่มาอย่างมีนัยสำคัญ รายละเอียดตรงนี้เดี๋ยวเราจะไปว่ากันต่อในหัวข้อทดสอบการขับขี่ครับ

TiWI1D.jpg

ทางด้านของสเปกเครื่องยนต์นั้น จะมีขนาด 649 ซีซี 4 สูบเรียง 4 จังหวะ แบบ DOHC 16 วาล์ว ระบายความร้อนด้วยน้ำจ่ายน้ำมันด้วยระบบหัวฉีด PGM-FI สตาร์ทเครื่องยนต์ด้วยระบบไฟฟ้า ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์ 6 สปีด ให้แรงม้าสูงสุดมากกว่าเครื่องเดิมของ ตระกูล 650 Series ก่อนหน้านี้ถึง 5% ด้วยกัน ทำให้ Red Line นั้นเพิ่มขึ้นอีก 1,000 รอบต่อนาที ปั้มเบรกแบบ Radial Mount 4 พ็อต ทำงานร่วมกับ Floating Discs และระบบเบรก ABS ส่วนระบบไฟเป็นแบบ LED รอบคัน และหน้าจอแสดงผลแบบดิจิตอลเต็มรูปแบบ พร้อมไฟบอกตำแหน่งเกียร์และไฟ Shift Up ที่จะคอยกระพริบเตือนเวลาถึงจังหวะที่ควรจะเปลี่ยนเกียร์ และท่อไอเสียแบบใหม่ ที่ทำให้การไหลเวียนนั้นยอดเยี่ยมกว่าเดิม ตรงนี้จะส่งผลต่อพละกำลังของตัวรถโดยตรง นอกจากนั้นตัวรถเองยังคงมีระบบ Slipper Clutch ติดตั้งมาให้ด้วย สำหรับการลดการล็อกของล้อหลัง และลดอาการท้ายปัดขณะที่เราลดเกียร์ลงอย่างต่อเนื่องด้วยความเร็ว และอีกหนึ่งไฮไลท์สำคัญก็คือระบบ Honda Selectable Torque Control (Traction Control) หรือระบบป้องกันล้อหมุนฟรี ที่ติดตั้งมาเป็นครั้งแรก ของรถในคลาส 650cc จากทาง Honda และยังมีการติดตั้งระบบ Emergency Stop Tail Light แสดงไฟฉุกเฉินเมื่อรถเบรกกระทันหันแบบที่ใช้ในรถระดับซูปเปอร์สปอร์ตด้วย

TiWsEt.jpg

พละกำลังของตัวรถ

TidfWR.jpg

และแล้วผมก็ได้มีโอกาสลองควบเจ้า CB650R กันเป็นครั้งแรก เลยขอวัดในเรื่องของอัตราเร่งกันก่อนเลย… ทดสอบแล้ว สุดครับ! อัตราเร่งดีงามมากๆ ปกติแล้วรถ 4 สูบมักจะมีจุดอ่อนในเรื่องของการออกตัว แต่ดูเหมือนว่า Honda เองจะผ่านจุดนั้นมาเรียบร้อยแล้ว จาก 2 เจนเนอเรชั่นของ 650 เวอร์ชั่นก่อนหน้านี้ ดังนั้นมาถึงตัว CB650R คันนี้จึงทำอัตราเร่งในย่านความเร็วต่ำถึงกลางได้อย่างจัดจ้านเอามากๆ การไต่ความเร็วจาก 0 – 100 กม./ชม. นั้นบอกเลยว่าแป้บๆ ก็แตะได้แล้ว เมื่อวัดจากความรู้สึกส่วนตัวที่เคยทดสอบ 650 จาก Honda ตัวก่อนหน้านี้ ชัดเลยว่ามันทำได้ดีกว่าเดิม

TiWOuR.jpg

ส่วนการไต่ความเร็วและการต่อเกียร์ในย่านความเร็วกลางถึงปลายนั้น ก็ถือว่าสอบผ่านสบาย ตามแนวทางของรถแบบ 4 สูบ ที่การรีดพละกำลังในย่านนี้มันคือซิกเนเจอร์หรือจุดเด่นที่รถ 2 สูบทำได้ไม่ดีเท่า (แต่ครั้งแรกๆ ก็ต้องทำความคุ้นเคยกับคาแรกเตอร์ของแต่ละเกียร์กันก่อนครับ ซึ่งเจ้าไฟ Shift Up นั้นช่วยได้เยอะสำหรับมือใหม่ของ New Honda CB650R อย่างผม) และอย่างที่เกริ่นไปว่าตัวรถนั้นมีเรดไลน์ใหม่อยู่ที่ 13,000 รอบต่อนาที กับแรงม้าระดับ 93.9bhp ที่ 12,000 รอบต่อนาที และทอร์คหรือว่าแรงบิดที่ 63.9 นิวตันเมตรที่ 8,000 รอบต่อนาที ทั้งหมดนี้ก็เรียกได้ว่าในระดับคลาส 650cc แบบสแตนดาร์ดด้วยกัน เจ้า New Honda CB650R ก็ไม่น้อยหน้าใครอย่างแน่นอน

การควบคุมรถ

TiWPhP.jpg

ด้วยการออกแบบแฮนด์แบบบาร์ของ New Honda CB650R ที่มีลักษณะกระชับและมิติตัวรถที่ค่อนข้างเพรียวนั้น ทำให้ตัวรถมีความคล่องตัวและแม่นยำในการขับขี่ การจะมุดหรือจะพลิกรถก็ถือว่าสามารถทำความคุ้นเคย และเรียนรู้ถึงจุดศูนย์ถ่วงของตัวรถได้ไม่ยากครับ แต่อย่างไรก็ตามตรงนี้ก็จะต้องแลกมากับถังน้ำมันดีไซน์ใหม่ ที่มีความจุน้อยลงกว่า Series 650 ก่อนหน้านี้ จาก 17.3 ลิตรเหลือเพียง 15.4 ลิตร เพื่อให้ได้มาซึ่งน้ำหนักตัวที่เบาลงและความปราดเปรียวของตัวรถ แลกกับส่วนต่างประมาณ 2 ลิตรที่หายไป ก็อาจจะต้องเติมน้ำมันกันบ่อยขึ้นนิด หากว่าเน้นการเดินทางไกลเป็นหลัก

เฟรมรถ, ระบบช่วงล่าง และฟีเจอร์ต่างๆ

Tid7Of.jpg

ตัวเฟรมรถของ New Honda CB650R นั้นขึ้นรูปจากเหล็กแบบ Twin Spar ครับ เหมือนกับ Series 650 ก่อนหน้านี้แหละ แต่มีการปรับปรุงในเรื่องของน้ำหนักตัวรถโดยรวมให้ดีขึ้น และซับเฟรมใหม่ ซึ่งทำให้ตัวรถนั้นเบาลงกว่าเดิมถึง 1.9 กก. ด้วยกัน และมาดูที่พระเอกของเรากันบ้าง กับเจ้าโช้กอัพหน้าแบบหัวกลับ Upside Down ของ Showa ขนาด 41mm (แบบไม่สามารถปรับระดับได้) โดยมีชื่ออย่างเป็นทางการว่า Showa Dual Bending Valve ซึ่งความจริงแล้วทาง Showa เองนั้นก็ได้เคยแนะนำโช้กอัพอันนี้ให้กับทาง Honda เพื่อใช้กับโมเดลอย่าง CBR650F และ CB650F เมื่อ 2 ปีก่อนนั่นเอง

Tid4xz.jpg

โดยการทำงานของโช้กอัพหน้าแบบหัวกลับ Showa อันนี้เน้นการลดแรงกระแทกและความเสียดทานระหว่างการขับขี่ได้ค่อนข้างดี ทำให้คุณภาพในการขับขี่นั้นดีขึ้นกว่าเวอร์ชั่นที่ไม่มีโช้กหัวกลับแบบแตกต่าง ข้อมือของผู้ขับขี่นั้นไม่ต้องรับภาระมากจนเกินไป แต่อย่างไรก็ตามกับการที่มันไม่สามารถปรับระดับได้นั้น มันก็เลยถูกเซ็ทมาแบบค่ากลางๆ ที่วิจัยมาแล้วว่าเหมาะกับการใช้งานในการขับขี่ทั่วๆ ไปบนทางเรียบเป็นหลัก

TiWMA9.jpg

ในส่วนของระบบเบรกนั้น ตัวรถมาพร้อมกับดิสก์เบรกหน้าคู่ทรงกลมขนาด 310mm (ซึ่งเล็กกว่า 650 Series ก่อนหน้านี้ 10mm) ทำงานร่วมกับปั้มเบรกแบบ Radial Mount แบบ 4 พ็อตของ Nissin และมีระบบเบรก ABS ติดตั้งมาให้เป็นมาตรฐานจากโรงงานเลย ตรงนี้จากการทดสอบ การเบรกนั้นทำได้ดังใจสั่ง ไม่ต้องกะระยะในการเบรกให้วุ่นวาย การตอบสนองของ ABS นั้นอยู่ในระดับที่พอดีๆ ไม่มาเร็วหรือช้าเกินไป ในส่วนของ Slipper Clutch ก็ช่วยให้ผมขับขี่ได้อย่างมั่นใจมากขึ้น โดยเฉพาะกับการเข้าโค้งแบบหักศอกกระทันหัน หลังจากที่บิดมาด้วยความเร็วสูง

TiWEi8.jpg

และสำหรับ Traction Control หรือระบบป้องกันล้อหมุนฟรีนั้น บางคนอาจจะคิดว่ารถในคลาส 650cc 94 แรงม้า มันจำเป็นต้องใช้ขนาดไหน? บอกเลยว่ามีมาให้ก็ย่อมจะดีกว่าอย่างแน่นอน เพราะบางทีถ้ามันจำเป็นจะต้องใช้มันก็มีให้ใช้นะครับ ของอย่างนี้เราไม่มีทางรู้สถานการณ์ล่วงหน้าได้ทุกครั้ง และมันเจ๋งตรงที่ว่าเราสามารถเลือกปิดและเปิดระบบนี้ได้ด้วย เช่นหากว่าบางอารมณ์เราอยากจะยกล้อ ก็แค่ปิดมันซะ! แต่ถ้าจะเน้นความปลอดภัยแบบชัวร์ๆ ก็เปิดระบบนี้ มันง่ายนิดเดียวครับ

TidhK0.jpg

ภาพรวมของ Honda CB650R

TiWQ5a.jpg

สามารถเรียกได้เต็มปากว่า New Honda CB650R นั้นเป็นรถสปอร์ตเนกเกตที่คุ้มค่าที่สุดคันหนึ่งในคลาส 650cc ที่วางจำหน่ายในโลกอยู่ขณะนี้ครับ กับราคา 305,000 บาท และสเปกที่ให้มาขนาดนี้ หากคุณชอบรถบิ๊กไบค์ 4 สูบแรงๆ แต่ยังคงขี่ง่ายขี่สนุกตามสไตล์รถของปีกนก คันนี้ไม่ผิดหวังแน่นอน โดยจะมีให้เลือกด้วยกันทั้งหมด 4 สีก็คือ แดง-ดำ CANDY CHROMOSPHERE RED (คันที่เราใช้ทดสอบกันอยู่นี้), น้ำเงิน-ดำ MAT JEANS BLUE METALLIC, ดำ GRAPHITE BLACK และ เงิน-ดำ MAT CRYPTON SILVER METALLIC
TqnLDq.jpg
โดยสิ่งที่ผมชอบที่สุดของรถคันนี้ก็คือ

TiW5Yz.jpg

1. คาแรกเตอร์เครื่องยนต์ ที่ได้รับการปรับปรุงมาอย่างเข้มข้นแล้ว อัตราเร่งที่จัดจ้าน ขจัดจุดอ่อนในเรื่องการออกตัวย่านความเร็วต่ำได้อย่างสมบูรณ์แบบ

TiWbM0.jpg

2. ท่านั่งในการขับขี่และการควบคุม มันค่อนข้างจะลงตัวเอามากๆ กับสไตล์ของ New Honda CB650R การมุด การพลิก การเข้าโค้ง ฯลฯ จัดว่าเด็ดครับ

TiWLzW.jpg

3. ฟีเจอร์ไม่กั๊ก! ความจริงแค่ใส่ Upside Down เพิ่มมาให้จาก Series ก่อนหน้านี้ก็ดีใจตายแล้ว อันนี้ยังใจดีให้ Radial Mount, Slipper Clutch และ Traction Control มาให้ด้วย เอาใจไปสิครับแบบนี้

แล้วสิ่งที่อยากได้เพิ่มเติมล่ะ?

TiWrME.jpg

ถังน้ำมันถ้าจุเท่าๆ เดิม แต่ทำให้มันกระชับและน้ำหนักเบาลงได้ด้วย ก็คงจะดีไม่น้อยครับ สำหรับเวลาเดินทางไกลๆ (ราคาของ Honda CB650R อยู่ที่ 305,000 บาท)

TiWgoJ.jpg
TiWuYl.jpg
TiWH1N.jpg
TiWVDV.jpg
TiWXLQ.jpg
TiWm61.jpg
TiWyMy.jpg
TidWLJ.jpg
Tid0kb.jpg
TiWDJI.jpg
Tidzzq.jpg
ขอขอบคุณทางบริษัท A.P. Honda จำกัด ที่เอื้อเฟื้อรถสำหรับการทดสอบรีวิวในครั้งนี้ แล้วพบกับการรีวิวรถมอเตอร์ไซค์จากทาง GreatBiker ได้ใหม่ในโอกาสหน้า