รีวิว New Honda PCX Hybrid โดย GreatBiker
New Honda PCX Hybrid รถจักรยานยนต์ไฮบริดรุ่นแรกของโลกที่ใช้แบตเตอรี่ลิเทียมไอออนภายใต้คอนเซ็ป “Power of the pride”
เมื่อปี 2000 ฮอนด้ามีแนวคิดที่จะทำรถพรีเมี่ยมเอ.ที.ที่เหนือกว่ารถเอ.ที.ที่มีอยู่ในท้องตลาดในขณะนั้น เพื่อตอบสนองลูกค้าอีกกลุ่มหนึ่งนอกเหนือจากกลุ่มลูกค้าเอ.ที. และในปี 2009 นั้นเอง PCX 125cc ก็ได้ถือกำเนิดขึ้น และกลายเป็นตัวโกลบอลโมเดลส่งไปขายทั่วโลก โดยเน้นไปที่ ความหรูหราดู Luxury ขับขี่สนุก สบาย ท่านั่งแบบ Sit-In รวมถึงการรักษ์สิ่งแวดล้อมนั่นเอง
อย่างที่ทราบกันว่า New Honda PCX Hybrid เป็นอีกหนึ่งซีรี่ย์ ใน Honda PCX ปี 2018 นี้ เน้นการขับขี่ให้สนุก และ ดียิ่งขึ้นไปอีกระดับ รูปลักษณ์ภายนอกยังคงใช้การออกแบบของเจ้า New Honda PCX 150 cc ปี2018 ที่มีความโดดเด่นในเรื่องของไฟหน้าและไฟท้ายที่เข้ากัน มาพร้อม Smoke Lens เสริมความเท่ได้อย่างเหนือระดับ และไฟเลี้ยวแบบ LED ดีไซน์ใหม่ กล่องคอลโซลบ๊อกขนาดใหญ่พร้อมช่องชาร์จไฟสำรอง และฮอนด้าสมาร์ทคอนโทลเลอร์หรือชุดควบคุมการทำงานระบบสตาร์ทอัจฉริยะ ที่ใช้งานได้ง่ายและสะดวกสบาย เพิ่มความหรูหราด้วยBlue Ring LED และฮอนด้าสมาร์ทคีย์ กุญแจรีโมทอัจฉริยะ ที่ทำงานได้ถึง3ฟังชั่น คือ ระบุตำแหน่งรถ สัญญาณกันขโมยและเปิด-ปิดสัญญาณกันขโมย
ในส่วนที่มีการออกแบบมาใหม่คือเรือนไมล์ที่เพิ่มฟังชั่นของระบบการทำงานไฮบริดแสดงสถานะแบตเตอรี่ การใช้พลังงานแบตเตอรี่และการชาร์จไฟในขณะที่ระบบไฮบริดทำงาน พร้อมกับตำแหน่งบอกโหมดในการขับขี่ที่สามารตั้งได้ถึง 3 โหมดด้วยกันคือ Drive Mode (D) โหมดขับขี่ปกติ, Sport Mode (S) โหมดขับขี่แบบสปอร์ต ที่ช่วยเพิ่มกำลังให้มอเตอร์ไฟฟ้าเสริมการทำงานให้เครื่องยนต์ตอบสนองการขับขี่ได้มากยิ่งขึ้นกว่าปกติเมื่อมีการเร่งความเร็ว และ Blank Mode (-) เป็นโหมดการทำงานเหมือนกับ D แต่ปิดการทำงานระบบ Idling Stop ซึ่งแต่ละโหมดจะให้ความรู้สึกในการขับขี่ที่แตกต่างกัน เพียงแค่ใช้ปลายนิ้วสัมผัส
New Honda PCX Hybrid มาพร้อมกับเครื่องยนต์ eSP 150 cc ระบบจ่ายน้ำมันหัวฉีด PGM-FI 4 จังหวะ แบบซิงเกิ้ลโอเวอร์เฮดแคมชาฟท์ ระบายความร้อนด้วยน้ำ ระบบส่งกำลังเป็นแบบ V-Matic มิติของตัวรถอยั้ความกว้าง 745 มิลลิเมตร ยาว 1,923 มิลลิเมตร สูง 1,107 มิลลิเมตร โดยความสูงจากพื้นถึงเบาะอยู่ที่ 764 มิลลิเมตร ระบบกันสะเทือนหน้าเป็นแบบเทเลสโคปิค ระบบกันสะเทือนหลังเป็นแบบยูนิตสวิง ระบบห้ามล้อหน้าเป็นดิสเบรคแบบคอมบายเบรค ระบบเบรคหลังเป็นดรัมเบรค ขนาดยางหน้า100/80 ยางหลัง 120/70 ยางแบบทูปเลส มาพร้องกับล้อแม็กขนาด 14 นิ้ว ความจุน้ำมันเชื้อเพลิง 8 ลิตร ซึ่งทางฮอนด้าเองได้แจ้งว่าอัตราสิ้นเปลืองโดยเฉลี่ยประมาณ 52 กิโลเมตร/ลิตร เติมน้ำมันเบนซินหรือแก๊สโซฮอลล์ตั้งแต่ 91 เป็นต้นไป ความจุของU-box มีความจุที่ 23.3 ลิตรซึ่งจะเล็กลงไปจากรุ่น New Honda PCX 150 cc ปี2018 ประมาณ 5.5 ลิตร แต่ยังสามารถใส่หมวกกันน๊อคแบบเต็มใบได้1ใบ น้ำหนักรถโดยรวมอยู่ที่ 134 กิโลกรัม ซึ่งจะมีน้ำหนักมากกว่า New Honda PCX 150 cc ปี2018 เพียง 5 กิโลกรัมเท่านั้น
จุดเด่นของ New Honda PCX Hybrid อยู่ที่แบตเตอรี่ลิเทียมไอออน ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของขุมพลัง Hybrid ที่จะสามารถส่งพลังงานไฟฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ตอบสนองการทำงานของระบบไฮบริดได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ให้แรงขับเคลื่อนไฟฟ้าขนาด 48 โวลต์ พร้อมบอดี้คุณภาพสูงกันน้ำ กันกระแทกได้เป็นอย่างดี โดยการออกแบบให้มีขนาดกระทัดรัดทำให้น้ำหนักเบา โดยทางฮอนด้าเองได้การันตีอายุการใช้งานไว้ที่ 6-8 ปี และมีการรับประกันคุณภาพ 3 ปีหรือ3 0,000กิโลเมตร เช่นเดียวกันกับตัวรถ เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้ใช้รถจักรยานยนต์ New Honda PCX Hybrid
ระบบมอเตอร์ไฟฟ้า (Motor Assist) มอเตอร์ไฟฟ้าทรงพลัง มีหน้าที่เสริมการทำงานร่วมกับเครื่องยนต์ eSP 150 ซีซี ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการขับเคลื่อน ให้สามารถตอบสนองอัตราเร่งได้แรงทันใจ ทุกครั้งที่มีการเร่งความเร็ว
กล่องควบคุมอัจฉริยะ PDU (Power Delivery Unit) กล่องควบคุมการทำงานระบบไฮบริด มีหน้าที่สั่งการไปยังแบตเตอรี่ลิเทียมไอออน ให้จ่ายไฟไปยังมอเตอร์ไฟฟ้า ทุกครั้งที่มีการเร่งความเร็ว เพื่อให้มอเตอร์ไฟฟ้าเสริมการทำงานให้กับเครื่องยนต์ ในการเพิ่มอัตราเร่งตอบสนองความเร้าใจได้อย่างสมบูรณ์แบบ
จากเดิม PCX จะใช้กล่อง ECM ที่ควบคุมการสตาร์ท ระบบหัวฉีด และระบบจุดระเบิด กล่องใหม่นี้ก็เพิ่มการควบคุมระบบไฮบริดขึ้นมา
Hybrid Emblem สัญลักษณ์แห่งความภูมิใจทั้งจากฮอนด้าที่เป็นผู้ผลิต ส่งมอบให้กับลูกค้าผู้ครอบครอง New Honda PCX Hybrid ชาวไทยทุกคน ด้วย Hybrid 3D Emblem โลโก้ไฮบริดแบบ 3 มิติ ที่เป็นมาตรฐานเดียวกันทั่วโลกในผลิตภัณฑ์ทุกรุ่นของฮอนด้าที่เป็นระบบไฮบริด ทั้งรถยนต์และรถจักรยานยนต์
โดยลักษณะการทำงานของระบบไฮบริดนั้น จะเริ่มจากการบิดคันเร่งจากนั้นกล่อง PDU จะประมวลผลส่งคำสั่งไปที่แบตเตอริ่เทียม ให้จ่ายไฟไปที่ระบบมอเตอร์ไฟฟ้าให้ทำงานควบคู่ไปกับระบบเครื่องยนต์ปกติ ระบบไฮบริดที่เพิ่มเข้ามานั้นจะช่วยในเรื่องของแรงบิด (Torque) อธิบายง่ายๆคือ
1.เมื่อสตาร์ทรถเครื่องยนต์ทำงาน ไฮบริดยังไม่ทำงาน
2.เมื่อเริ่มออกตัวโดยเริ่งความเร็วรอบต่ำ ไฮบริดทำงาน
3.เมื่อขับรถด้วยความเร็วคงที่ ไฮบริดหยุดทำงาน
4.เมื่อเริ่มเร่งความเร็วรอบสูงอย่างรวดเร็ว ไฮบริดทำงาน
5.เมื่อขับรถโดยความเร็วลดลง ไฮบริดหยุดทำงานและเริ่มชาร์ตไฟเข้าแบตเตอรี่ลิเทียมไอออน
สรุปคือจะเห็นว่าไฮบริดจะทำงานเฉพาะช่วงที่มีการเร่งความเร็วเท่านั้น ซึ่งก็จะช่วยให้มีการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงในจังหวะเหล่านี้ไปบ้าง แต่ก็ไม่ได้มากมายจนเป็นคีย์สำคัญแต่อย่างใด แต่จุดเด่นจริงๆ ของระบบไฮบริดใน New Honda PCX Hybrid นั้นก็คือการช่วยให้การบิดคันเร่งแต่ละครั้งนั้นทำได้ดีกว่ารถคลาส 150cc คันอื่นๆ นั่นเอง
หลังจากที่ทำการทดลองขับขี่กันในเส้นทางกว่า 300 กม.
New Honda PCX Hybrid นั้นสำหรับการออกตัวในย่านความเร็วต้นถือว่ามีความนุ่มนวล ไม่มีอาการสั่นเหมือนกับรถออโตเมติกบางรุ่นแต่อย่างใด ทอร์คที่ให้มาถือว่าเพียงพอ จะเร่งจะแซงสำหรับความเร็วในย่านนี้ก็ทำได้ดังใจ และแม้ว่ามิติของตัวรถอาจจะไม่ได้เล็กมากเหมือนกับรถสกู๊ตเตอร์ตลาดทั่วไป แต่มันก็ยังคงมีความคล่องตัวให้เห็นกันอยู่ หลังจากทำความคุ้นเคยกับมิติของตัวรถแล้ว ก็สามารถมุดหรือซอกแซกในการจราจรที่ติดขัดได้อย่างสบายๆ สำหรับการขับขี่ในเมือง
ต่อมาเราได้ลองทดสอบขับขี่ในระยะทางไกลขึ้นกว่าเดิม อัตราเร่งในย่านความเร็วต้นถึงกลางทำได้ดี แต่ในช่วงความเร็วประมาณ 100 จะเริ่มออกอาการตื้อๆ บ้างเล็กน้อย หากว่าเราขับขี่ในโหมด Blank หรือโหมด D แต่ถ้าหากว่าในจังหวะนี้เราลองเปลี่ยนเป็นโหมด S หรือใช้โหมด S มาตั้งแต่แรก จะพบว่าอัตราการเร่งมันจะปลดปล่อยพลังออกมาได้อย่างเต็มที่ ซึ่งเป็นประสบการณ์ใหม่ที่ไม่เคยพบเจอมาก่อนในรถ PCX ทำให้สามารถไต่ความเร็วไปในช่วงประมาณ 120 + ได้อย่างสบายๆ ไม่ต้องอาศัยการหมอบหรือเค้นแต่อย่างใด ซึ่งตรงนี้เองเป็นคีย์สำคัญของการมีระบบไฮบริดมาช่วยอย่างแท้จริง ทำให้การขับขี่ออกทริปในเส้นทางที่แตกต่างกัน อย่างชันๆ ทางคดเคี้ยวก็ตอบสนองได้ดี จนบางครั้งลืมไปว่ากำลังขี่รถในคลาส 150 อยู่เท่านั้น เพราะบิดกันได้มันส์มากๆ กับโหมด S ซึ่งอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันนั้น หากวิ่งกันในโหมด D ก็จะได้อยู่ประมาณ 42 กม. / ลิตร ส่วนโหมด S จะอยู่ที่ประมาณ 35 กม. / ลิตร ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อม น้ำหนักตัวผู้ขับขี่ และความหนักเบาในการกระแทกคันเร่งอีกที แต่โดยรวมแล้วถือว่าประหยัดดีทีเดียว
และแน่นอนว่ากับรถอย่าง Honda PCX Hybrid แล้ว ถือว่าเป็นรถที่สามารถปรับท่านั่งได้ 2 แบบใหญ่ๆ คือวางขาตรงตั้งฉากกับพื้น หรือเหยียดเท้าไปด้านหน้า ทำให้การวิ่งไกลๆ นั้นไม่สร้างความเมื่อยล้าแก่ผู้ขับขี่แต่อย่างใด ส่วนระบบช่วงล่างของตัวรถนั้นเซ็ทมาค่อนข้างออกไปทางนุ่มนวล ทำให้สามารถใช้งานได้ดีในแบบกว้างๆ แต่หากว่าใครที่อยากได้ฟีลลิ่งแบบสปอร์ตๆ หน่อยก็อาจจะลองเปลี่ยนโช้กอัพด้านหลังดูได้ การเข้าโค้งไฮสปีดของตัวรถทำได้ดี การออกแบบท่านั่งในโค้งกับรถ Honda PCX Hybrid นั้นสามารถทำได้หลายแบบตามความถนัด และอีกสิ่งหนึ่งที่น่าประทับใจก็คือยางติดรถที่ให้มาเป็นเกรดที่ค่อนข้างดีเลยทีเดียว ทำให้เกาะถนนได้อย่างมั่นใจ
ความเสถียรของตัวรถนั้นในภาพรวมถือว่าสอบผ่านแบบสบายๆ เครื่องยนต์ทำงานได้นิ่มนวลในรอบเครื่องสูงๆ ไม่มีอาการสั่นสะท้านแต่อย่างใด รวมไปถึงชุดแฟร์ริ่งที่เก็บงานมาอย่างดี ไม่มีเสียงจุกจิกกวนใจ ตรงนี้ถือว่าทางผู้ผลิตทำการบ้านมาค่อนข้างดีในเรื่องงานประกอบ และการเซ็ทเครื่องยนต์ ในส่วนของระบบเบรกนั้นการที่มี Combi Brake มาช่วยก็ทำให้ระยะในการหยุดที่กระชับ สำหรับฟีเจอร์ต่างๆ ที่ติดรถมาให้ไม่ว่าจะเป็นสมาร์ทคีย์, Idling Stop ฯลฯ ก็ล้วนแล้วแต่มาเติมตัวประสิทธิภาพของตัวรถให้สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น และมีประโยชน์ต่อการขับขี่จริง ดังนั้นแล้ว Honda PCX Hybrid จึงถือว่าเป็นรถที่ใช้งานทั้งในเมืองและออกทริประยะกลางได้ดีพอๆ กัน ด้วยคาแรกเตอร์ของตัวรถแล้ว ถือว่าเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจและโดดเด่นออกมามากๆ ในคลาส 150cc และด้วยราคาแนะนำที่เปิดมาเพียง 99,900 บาทถือว่าเซอร์ไพร์สเอามากๆ เพราะต่ำกว่าที่กะเก็งไว้ในทีแรกเยอะเลยทีเดียว เหมือนกับว่าทางค่ายเองนั้นต้องการจะมอบประสบการณ์ในการสัมผัสกับเทคโนโลยีใหม่ๆ ให้เข้าถึงผู้ใช้งานได้ง่ายขึ้นนั่นเอง
ขอขอบคุณบริษัท เอ.พี.ฮอนด้า สำหรับรถที่นำมาให้ทีมงาน GreatBiker ได้รีวิวให้เพื่อนๆ ได้ชมกันในครั้งนี้ ส่วนคราวหน้าจะเป็นรถมอเตอร์ไซค์คันไหนนั้น รอติดตามชมกันได้ครับ
Sakon Supapornopas – Website founder greatbiker.com I like all types of motorcycles. Working in the automotive industry for more than 10 years, in-depth analysis of new motorcycle models. that will be launched in Thailand and abroad Review from actual use experience
