รีวิวว่าที่ MSX 125 Generation 2

หลังจากที่กระแสข่าวลือกันให้แน่ว่าทางค่ายปีกนกอย่างฮอนด้าเตรียมที่จะเปิดตัวโชว์เจ้า GROM50 รุ่นที่ 2  ในคราบร่างของเจ้า Honda MSX 125 ที่มีวางจำหน่ายกันอยู่ในบ้านเรา ณ ขณะนี้ ซึ่งก็ต้องบอกได้ทันทีว่าได้รับความนิยมและมียอดจำหน่ายเป็นอันดันหนึ่งในกลุ่มรถมอเตอร์ไซค์มินิสปอร์ต  ซึ่งถือว่าสามารถเจาะตลาดได้อย่างทะลุปุโปร่งกันไป เอาชนะคู่แข่งอย่างค่ายยักษ์เขียวที่ถึงแม้จะทำตลาดก่อน และกินเค้กก้อนโตชิ้นนี้มาหลายปีก็ตาม

วันนี้เราจึงอยากจับเจ้า GROM50 รุ่นนี้มารีวิวกันสักหน่อย เพราะในต้นปีหน้า อาจจะมีลุ้นมาเปิดตัวเป็นเจ้า Honda MSX125 Scrambler เป็นอีกรูปแบบหนึ่งในอีกหนึ่งตัวเลือกสำหรับสายการผลิตและจำหน่ายในตลาดมอเตอร์ไซค์บ้านเราก็เป็นไปได้สูงเลยทีเดียว…..

เรามารีวิวกันตามแบบฉบับของ GreatBiker กันดีกว่า  ซึ่งก็จะเริ่มต้นด้วยการรีวิวจากดีไซน์และรูปลักษณ์ภายนอกกันโดยภาพรวมแล้วตามไปเจาะลึกกันทีละจุดกันเลยดีกว่า….

เริ่มจากรูปลักษณ์การออกแบบและดีไซน์ของเจ้า Honda GROM50 หรือ Honda MSX125 Scrambler บอกเลยว่าแม้แต่ว่ามันจะเป็นเพียงต้นรถแบบที่จะเอามาเปิดตัวโชว์ในงาน Tokyo Motor Show 2015 ที่กำลังจะมาถึงแล้วในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้ เรียกว่ามันงามสุดติ่งจริงๆ มองแล้ว ต้องบอกเลยว่าทีมคิดค้นวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ของค่ายปีกนกนี้ทำการบ้านมาเป็นอย่างดี ดูแนวทาง ความนิยมว่า ในแบบไหนจึงจะทำให้ตลาดต้องการ  ซึ่งตรงนี้เป็นเหตุผลว่าทำไมค่ายปีนกอย่างฮอนด้าถึงได้เป็นแชมป์ยอดขายจำหน่ายรถมอเตอร์ไซค์ และบิ๊กไบค์ในบ้านเราหลายๆ รุ่นนั่นเอง

ซึ่งภายในงานนี้ทางค่ายปีกนกเองจะนำเอาเจ้า Honda GROM50 หรือ Honda MSX125 Scrambler คอนเซปทั้งสองคันมาจัดแสดงให้เห็นกันแบบตัวเป็นๆ   เรีกยว่าการดีไซน์ตัวถังและรูปลักษณ์ต้องบอกว่าฉีกแนวจากเจ้า Honda GROM50 แบบเดิมมากเพราะมาในแบบสไตล์รถลุยๆ คลาสสิคๆ แบบย้อนยุค หรือที่หลายๆ คนจะรู้จักและเรียกขานกันว่า Scrambler นั่นเอง

ความโดดเด่นของเจ้าคันนี้ตั้งแต่แรกเห็นบอกเลยทุกจุดทุกเม็ดเก็บรายละเอียดได้อย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็นในลักษณะของรูปแบบตัวถังที่มียางแก้มถังติดมาด้วย หรือแม้แต่โลโก้ฮอนด้ายุคเก่า  สีแดงตัดกับตัวถังทรงคลาสสิคสีบรอนซ์เงิน พร้อมช่วงต่อเบาะเป็นแบบเบาะตูดมด ช่วงท้ายที่สั้น  และช่วงกาบไฟเบอร์ส่วนช่วงกลางถึงท้ายที่เป็นตำแหน่งของเบอร์แป้นด้านท้าย ที่ดูแล้วบอกเลยว่าเร้าใจสุดๆ อะ….

นอกจากนี้ยังมีความโดดเด่นในส่วนของวงล้อขนาด 12 นิ้วแบบซี่ลวดพร้อมยางลุยแบบวิบาก ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง  ส่วนของด้านหน้าตั้งแต่โฉมไฟหน้าเอง ในเจ้า Honda GROM50 Concept One และ Concept Two นั่นก็จะอยู่ในลักษณะของไฟหน้าทรงกลม  เพราะลูกเล่นที่หลอดไฟหน้าเป็นแบบ LED แต่จะต่างกันในเรื่องของสีสันและดีไซน์ที่ก้านไฟเลี้ยว เพราะในแบบแรกจะเป็นในลักษณะของรถมอเตอร์ไซค์ย้อนยุคนิดๆ แต่ในแบบที่สองจะเป็นในแนวของ Scrambler แนวปัจจุบันที่ออกจะสมัยนิดหน่อย  แต่โดยหลักๆ ก็จะมีวัสดุต่างๆ ที่คล้ายๆ กัน ไม่ว่าจะเป็น ตัวแอนด์บาร์ที่ให้มาในสไตล์ทรงสูง  พร้อมเรือนไมล์เป็นแบบดิจิตอลพร้อมฟังก์ชั่นการบ่งบอกข้อมูลต่างๆ ที่ครบถ้วน ทั้งสองตัว  นอกจากนี้ตัวถังของมอเตอร์ไซค์ทั้งสองแบบนี้ยังให้ความคลาสสิคย้อนยุค รับกับตัวเบาะนั่งที่มาในรูปแบบของเบาะตูดมด เพราะท้ายสั้นรับกับตัวบังโคลนแนวเก่าได้เป็นอย่างดี

สำหรับมิติตัวรถนั้นมีขนาดที่เทียบเท่าได้กับเจ้า Honda MSX125 แต่ในญี่ปุ่นจะมีขนาดความจุของบล็อคเครื่องยนต์อยู่ที่ 50 ซีซีเท่านั้นแต่ถ้าวางจำหน่ายที่เมืองนอกและบ้านเราเอาง่ายๆ ก็คือเจ้าบล็อกเครื่องยนต์สูบนอนตัวเดียวกับที่มีอยู่ใน MSX 125 รุ่นปัจจุบันนั่นเอง…

สำหรับการตกแต่งและจัดวางตำแหน่งต่างๆ ของบล็อกเครื่องยนต์เรียกว่าสวยงามรับกับตัวท่อไอเสียแบบยกสูงรับกับฝาครอบท่อไอเสียที่ด้านข้างเป็นอย่างดี…ส่วนในเรื่องของระบบความปลอดภัยต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของระบบกันสะเทือนที่ด้านหน้าก็ยังคงคอนเซปไว้ที่โช้คอัพแบบ Up-side-down สีทองอยู่ส่วนด้านด้านหลังก็จะเป็นแบบโช้คอัพเดียวขนาดใหญ่พร้อมการซัพแรงกระแทกและน้ำหนักต่างๆ ได้เป็นอย่างดี ระบบเบรก ก็จะมาพร้อมดิสก์เบรกทั้งด้านหน้าและด้านหลังด้วยเช่นกัน  แต่ในตัวรถต้นแบบที่จะนำมาโชว์นี้สวิงอาร์มได้ถูกเปลี่ยนออกไป ใส่เจ้าตัวสวิงอาร์มแบบใหม่ที่ไม่ได้เป็นเหมือนท่อนเหล็กสี่เหลี่ยมยาวๆ ธรรมดาอีกต่อไป

ซึ่งสามารถที่จะบอกได้เลยว่า มันคือเจ้า Scrambler ที่ย่อส่วนจากรถมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์ใหญ่ลงมาอยู่ในขนาดที่สามารถขับขี่ในเมืองไปไหนมาไหนก็คล่องตัวขับขี่ได้สบายๆ ทั้งเด็กโต ผู้หญิงหรือแม้แต่ผู้หญิงก็ตาม เรียกว่างานนี้ทางค่ายฮอนด้าเองจะใช้ไทยเราเป็นฐานการผลิตและส่งออกเจ้า Honda GROM50 หรือ Honda MSX125 Scrambler ไปขายทั่วโลกหรือไม่ และหน้าตารถตัวจริงที่พร้อมขึ้นไลน์จะออกมาสวยงามเหมือนรถต้นแบบสองคันนี้หรือไม่ คงต้องติดตามกันต่อไป….คาดการณ์ว่าไม่เกินต้นปีหน้า 2559 คงจะได้รู้ข่าวที่แน่ชัดกันอย่างแน่นอน…..

ขอขอบคุณภาพประกอบจาก : Courtesy of Honda
All New MSX Generation 2