Banner Yamaha Grand Filano Hybrid Connected 2024 1150x250
Banner Yamaha Grand Filano Hybrid Connected 2024 400x300

ส่อง Honda CBR250RR ว่ามีสีอะไรบ้าง ที่มีโอกาสจะมาเปิดตัวบ้านเรา

นับถอยหลังกันกับอีกไม่กี่วันแล้ว สำหรับ Honda CBR250RR กับการเตรียมการเปิดตัวอย่างเป็นทางการครั้งแรกในประเทศไทย ซึ่งเป็นการนำเข้าจากประเทศญี่ปุ่นโดยบริษัท เอ.พี. ฮอนด้า จำกัด โดยตรง และคาดการณ์ว่ามันจะมีการเปิดตัวต่อหน้าสื่อมวลชนในวันที่ 25 มีนาคมนี้ ที่ห้างสยามพารากอน และรับจองในงานมอเตอร์โชว์หลังจากนั้น

และแน่นอนว่า เมื่อมันมีการนำเข้าจากญี่ปุ่นโดยตรง ทางเราก็เลยอยากจะพาไปดูว่า CBR250RR ที่ขายกันที่นั่น มีสีสันอะไรในแต่ละเวอร์ชั่นบ้าง ซึ่งมันน่าจะอ้างอิงกับสีที่นำมาขายในประเทศไทยเรากันด้วย เผื่อเพื่อนๆ บางคนจะได้เล็งๆ สีสันที่ตัวเองชอบๆ ไว้ ก่อนจะไปสัมผัสตัวจริงกัน

อย่างแรกเลยก็คือ CBR 250 RR เวอร์ชั่นสแตนดาร์ด (ไม่มี ABS) จะมีอยู่ด้วยกัน 1 สีก็คือ Grand Prix Red (stripe)
tE1Asy.png

ซึ่งสีนี้จะนับว่าเป็นสีโปรโมท CBR250RR กันที่ประเทศญี่ปุ่นในปัจจุบันเลยก็ว่าได้ ตัวรถมาเป็นแบบโทนสีไตรคัลเลอร์ (3 สี) ซึ่งจะมีสีแดงที่เป็นสีประจำของทางค่าย Honda และสีน้ำเงินเข้มตัดพาดกลาง ที่มีสีขาวเดินเส้นสายขนานไปด้วยกัน รวมไปถึงในส่วนของแฟริ่งล่างด้วย  ซึ่งโทนสีนี้ให้อารมณ์ความรู้สึกฟีลลิ่งสปอร์ตเอามากๆ ดูทรงพลังและหรูหราสง่างาม ประมาณว่าดูก็รู้ว่ารถแรงมาแต่ไกล

และสำหรับในเวอร์ชั่น ABS นั้นจะมีอยู่ 4 สีด้วยกันก็คือ

สี Grand Prix red
tE188q.png

สำหรับสีนี้นั้นจะมาในโทนสีแดงประจำค่าย Honda แบบวันโทนเต็มๆ คัน ตัดสลับกับสีดำเทาในส่วนของบอดี้บางชิ้นเท่านั้น การใช้โทนสีนี้มาออกแบบนั้น ก็บ่งบอกได้อย่างชัดเจนถึงเอกลักษณ์ของทางค่ายปีกนก หรือเรียกได้ว่าเป็นสีที่คู่กับรถแข่งของทางค่ายในหลายๆ รุ่นเหมือนกัน ให้ความรู้สึกร้อนแรงแบบรถสปอร์ตอย่างเต็มตัว

สี Matte Gun Powder Black Metallic
tE1rUa.png

สีดำด้านสีนี้ก็ถือว่ามาในอารมณ์ที่ค่อนข้างแปลกไป เพราะโดยปกติแล้วเรามันจะคุ้นชินกับรถสปอร์ตแบบสีดำเงามากกว่า แต่ในเมื่อมาในสีด้านแบบนี้ก็ดูมีความลึกลับน่าค้นหาอยู่ไม่น้อย ซึ่งนอกจากตัวแฟริ่งที่เป็นสีดำด้านแล้วนั้น มันก็จะกลืนไปกับในส่วนบอดี้หลักๆ ของตัวรถที่เป็นสีในโทนเดียวกันด้วย โดยความพิเศษของสีนี้ที่นอกจากมันจะเป็นสีด้านแล้วนั้น ก็จะมีการเดินเส้นสายสีแดงของ Honda สลับไปเล็กๆ น้อยๆ เพื่อไม่ให้มันดูดำทะมึนไปทั้งคันจนเกินไป ประมาณว่ายังเติมความร้อนแรงในแนวสปอร์ตเข้าไปด้วยเหมือนกัน

สี Pearl Glare White
tE1V7z.png

สีขาวมุกสีนี้ถือว่าโดดเด่นและแปลกแยกออกมาจากสีอื่นเหมือนกัน ให้ความรู้สึกเรียบหรู สะอาด นุ่มนวล แต่ก็พร้อมที่จะแรงได้ทุกเมื่อด้วยสีแดงที่แทรกๆ มาในบางช่วง เพื่อให้อารมณ์สปอร์ตยังไม่จางหายไป โดยการเดินสีขาวสลับกับสีดำของตัวบอดี้รถนั้น ก็ถือว่าเป็นการนำเอาคู่สีที่มีความคอนทราสท์ (แตกต่าง) ที่ชัดเจนมากที่สุดมาใช้ ก็ทำให้มันน่าสนใจสำหรับผู้ที่อยากได้สีเรียบๆ แต่แอบแรงอย่างแน่นอน

และสีสุดท้ายของเวอร์ชั่น ABS ก็คือสี Grand Prix Red (stripe)

tE1Asy.png

โดยรายละเอียดตัวรถก็จะเหมือนกับสี Grand Prix Red (stripe) เวอร์ชั่นไม่มี ABS ทุกอย่าง แตกต่างกันที่เวอร์ชั่นนี้มีการติดตั้ง ABS มาให้ด้วย

มารอดูกันว่าทั้งหมดนี้จะใช่สีที่นำมาขายกันในประเทศไทยตามนี้เลยหรือเปล่า วันจันทร์ที่ 25 มีนาคมนี้จะได้ทราบกันอย่างแน่นอน

ขอบคุณภาพประกอบจาก https://www.honda.co.jp/