Banner Yamaha Grand Filano Hybrid Connected 2024 1150x250
Banner Yamaha Grand Filano Hybrid Connected 2024 400x300

แนะนำการแข่งขัน Suzuka 8 Hours หนึ่งในการแข่งขันที่บ้าพลังมากที่สุด!!!

maxresdefault

ถ้าจะพูดถึงรายการแข่งขันมอเตอร์ไซค์ทางเรียบที่ไม่นับเฉพาะแค่ความเร็วในการแข่งขัน แต่ต้องวัดกันด้วยพละกำลัง ความอึด และการบริหารจัดการของทีมงานและนักแข่งแล้ว Suzuka 8 Hours ดูจะเป็นหนึ่งรายการแข่งขันที่บ้าพลังสุดๆรายการหนึ่งของโลกฝบนี้

Suzuka 8 Hours เป็นหนึ่งในปฏิทินการแข่งขันที่ได้รับการรับรองจาก FIM หรือสหพันธ์ยานยนต์นานาชาติ ในเรื่องของมาตรฐานและกฏระเบียบข้อบังคับอย่างเข้มงวด โดยจัดแข่งที่สนาม Suzuka Circiut ประเทศญี่ปุ่นทุกปี โดยจุดเริ่มต้นของการแข่งขันนั้นต้องย้อนกลับไปเมื่อปี 1978 เป็นยุคที่สี่ค่ายมอเตอร์ไซค์จากแดนปลาดิบ Honda , Kawasaki , Suzuki และ Yamaha ต้องการที่จะวัดกันถึงเรื่องของความอึดของเครื่องยนต์ และเทคโนโลยีทางด้านวิศวกรรมที่สูงกว่ากัน และนั้นก็คือจุดเริ่มต้นของการแข่งขัน Suzuka 8 Hours ที่มีการจัดการแข่งขันมาอย่างยาวนานกว่า 40 ปี

โดยในยุดแรกเริ่มนั้นยังใช้รถในการแข่งขันที่ไม่มีวางขายในท้องตลาดหรือเรียกกันได้เลยว่าเป็น Prototype ที่ใช้สำหรับการแข่งขันโดยตรงจนกระทั่งมีการเปลี่ยนแปลงในปีที่สองของการแข่งขัน เมื่อ FIM ก้าวเข้ามาควบคุมการแข่งขันได้ลดขนาดของเครื่องยนต์ให้ไม่เกิน 750 cc ซึ่งในขณะนั้นยังเป็นเครื่องยนต์แบบ 2 จังหวะกันอยู่หากเทียบสเกลของ CC แล้วน่าจะเทียบเท่ากับเครื่องยนต์ขนาด 1000 cc ในปัจจุบัน  และการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ก็เกิดขึ้นในปี 1993 เมื่อ FIM มี มติติให้ทางค่ายรถมอเตอร์ไซค์ที่จะทำการลงแข่งนั้นให้เลือกใช้รถในคลาส Superbike (1000-1300 cc) เท่านั้น

ตามสถิติที่ถูกบันทึกไว้นั้น มีจำนวนผู้เข้าชมสูงสุดเมื่อช่วงยุค 80 โดยอีตราเฉลี่ยผู้ชมแต่ล่ะครั้งจะอยู่ที่ 130,000 คน โดยมีผู้คนที่มาชมบนอัฒจันทร์ตลอด 8 ชั่วโมงของการแข่งขันกว่า 85,000 คน และในยุค 90 ก็ยิ่งได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นจนจำนวนผู้เข้าชมงานมีสูงกว่า 160,000 คน และด้วยจำนวนผู้เข้าชมการแข่งขันที่พุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆนี้เอง FIM จึงได้บรรจุ รายการ Suzuka 8 Hours เข้าไปใน  FIM Endurance World Championship  เมื่อปี 2005 อย่างเป็นทางการ

กติกาการแข่งขัน
อธิบายง่ายๆเลยคือทีมไหนสามารถแข่งขันครบ 8 ชั่วโมงโดยมีรอบการลงสนามเยอะที่สุดเป็นฝ่ายชนะ โดยแต่ล่ะทีมมีนักแข่งได้ 3 คน ต่อรถ 1 คัน สามารถเปลี่ยนกันลงทำการแข่งขันได้ ระหว่างการแข่งขันห้ามมีการเปลี่ยนรถ หากเกิดอุบัติเหตุจนรถไม่สามารถแข่งต่อไปได้ถือว่าสละสิทธ์ หรือนักแข่งได้รับบาดเจ็บไม่สามารถแข่งต่อได้หากนักแข่งอีกที่เหลือสามารถแข่งต่อได้โดยไม่เปลี่ยนรถก็สามารถแข่งต่อไปได้  ในเรื่องของอะไหล่รถที่มีการสึกหรอสามารถเปลี่ยนได้ตามกฎข้อบังคับ การเติมเชื้อเพลิงต้องขับขี่เข้าไปเติมที่ pit ด้วยตัวนักแข่งเอง ไม่ว่าจะขี่หรือเข็นก็ตาม ห้ามนำเชื้อเพลิงไปเติมนอก Pit เป็นอันขาด

นับว่ารายการแข่งขันนี้ค่อนข้างจะบ้าพลังเอามากๆเลยทีเดียวนะครับ หากถามว่าเคยมีนักแข่งชื่อดังคนไหนเคยลงทำการแข่งขันรายการนี้บ้าง ต้องบอกเลยครับว่า เพียบบบบบบ ไม่ว่าจะเป็นแชมป์โลก 9 สมัยอย่าง Valaentino Rossi ก็เคยลงทำการแข่งขันเมื่อปี 2000 และเคยได้แชมป์เมื่อปี 2001 บนรถมอเตอร์ไซค์ Honda รวมไปถึงแชมป์รายการนี้สองครั้งล่าสุดเมื่อปี 2015 และ 2016 ที่เป็นถึงนักแข่งระดับ MotoGP อย่าง Pol Espargaro เมื่อปี 2015 นั้นจับคู่กับ Alex Lowes นักบิดจากรายการ WSBK และปี 2016 ก็จับคู่กับเพื่อนร่วมทีม Yamaha Tech3 อย่าง Bradley Smith คว้าชัยชนะให้กับทีม Yamaha สำเร็จ รวมไปถึงนักแข่ง WSBK อย่าง Michael Van Der Mark เองก็เคยได้แชมป์รายการนี้เมื่อปี 2013 และ 2014 บนรถของ Honda  มาแล้วเช่นกัน

Valentino Rossi & Colin Edward 2001 Champion

Pol Espargaro , Katsuyuki  Nakafuga & Bradley Smith 2016 Campion

นับว่าเป็นอีกหนึ่งรายการที่ทดสอบความอดทนของนักแข่ง และทีมช่างเป็นอย่างดี โดยการแข่งขันมนปีนี้ จะจัดขึ้นในวันที่ 28-30 กรกฎาคมที่จะถึงนี้  มาดูกันว่าแชมป์ 27 สมัยอย่าง Honda จะสามารถทวงบัลลังก์แชมป์คืนมาจาก Yamaha ได้หรือไม่ และที่สำคัญปีนี้มีนักแข่งไทยลงทำการแข่งขันด้วยนะครับ เพื่อนๆสามารถติดตามข่าวสารความเคลื่อนไหวได้ที่ GreatBiker ที่เดิมครับผม

ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก www.fimewc.com